ครอบครัวผู้ช่วยทันตกรรม ร้อง ผบ.ตร. กรณีลูกสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งชนบริเวณถ.พหลโยธินสายเก่า จ.ตาก
วันที่ 18 พ.ค 66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา นายปกธัต พงศ์ปภดากุล อายุ 54 ปี นางวรษา พงศ์ปภดากุล อายุ 52 ปี พ่อและแม่ของน.ส.พรรธร หรือน้องแตงกวา พงศ์ปภดากุล อายุ 24 ปี ผู้ช่วยทันตกรรม ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 65 เหตุเกิดบริเวณตรงข้ามร้านพักกาย ม.9 ถ.พหลโยธินสายเก่า ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. โดยมี พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช รองผบก.พฐก. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน
นางวรษา กล่าวว่า วันที่ลูกเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตตนยุ่งอยู่ที่ห้องดับจิต จึงให้ญาติเป็นตัวแทนไป แต่มาทราบทีหลังว่ายังไม่ได้แจ้งความ ตนจึงไปขอพบร้อยเวรที่ทำคดี เขาบอกว่าจะมาแจ้งความทำไมเป็นเรื่องที่ตำรวจต้องทำคดีสั่งฟ้องเพราะเป็นคดีจราจร เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้พยายามจะขอแจ้งความแล้ว จึงกลับไปดำเนินการเรื่องงานศพของลูก ทางคู่กรณีบอกว่าเขามีประกันชั้น 1 เขาจะรับผิดชอบ
เราจึงจัดการงานศพให้เรียบร้อยเมื่อฌาปนกิจแล้วพยายามติดต่อคู่กรณีเพื่อเคลียร์กัน แต่ฝั่งคู่กรณีกลับบอกว่าเขาไม่ผิด ไม่มีการเคลียร์ ได้พูดคุยกันต่อหน้าร้อยเวรปรากฏว่าทางประกันฝ่ายคู่กรณีบอกว่าฝ่ายตัวเองไม่ผิด ลูกตนเป็นฝ่ายผิด ร้อยเวรก็บอกว่าลูกตนเป็นฝ่ายผิด ตนจึงถามกลับไปว่าร้อยเวรอยู่ในเหตุการณ์ไหม เห็นหรือไม่ว่าลูกตนผิด ร้อยเวรไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทำไมไม่พิสูจน์กันก่อน หาความจริงก่อนหรือไม่ ทำให้เราเสียใจทำไมตำรวจถึงพูดคำนี้ออกมา ตนจึงต้องวิ่งหาหลักฐานด้วยตัวเอง
นางวรษา กล่าวต่อว่า ในกล้องวงจรปิดเห็นลูกตนขับอยู่เลนซ้ายแล้วโดนชนที่ท่อ คู่กรณีขับรถมาเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ฝ่ายคู่กรณีอ้างว่าถ้าลูกแม่ไม่ตัดหน้าเขาจะชนได้อย่างไร ต่างฝ่ายต่างมีภาพรถที่อยู่ในเลนของตัวเอง แต่ทางร้อยเวรบอกว่ามีความเห็นตรงกันกับผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐาน ทั้งนี้ตอนจัดงานศพทางฝ่ายคู่กรณีได้มีซองมามอบให้เพื่อขอขมาและก็ขอถ่ายภาพไว้
แต่แม่สัมผัสได้ถึงความจริงใจหรือไม่จริงใจ ตอนเช้าไปใส่บาตรปกติเขาก็ถ่ายภาพ ตอนกลางคืนฟังสวดเขาก็ถ่ายภาพ เราก็รู้ว่าเขาต้องเอาไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล เราก็นิ่งและเขาก็บอกว่าเขามีประกันเขาจะรับผิดชอบแต่ผ่านเหตุการณ์ผ่านไปทุกอย่างก็เงียบหาย เราพยายามติดต่อเขาไป
แม่เชื่อว่ากล้องวงจรปิดโกหกไม่ได้ แต่คนสามารถโกหกได้ แม่ไปหากล้องวงจรปิดตั้งแต่หน้าเรือนจำแสดงให้เห็นถึงความเร็วของรถคู่กรณีที่วิ่งมา คลิปหน้าบ้านคนเป็นคลิปก่อนเกิดเหตุชนในกล้องจับภาพได้ว่าลูกตนขับอยู่ในเลนซ้ายสุด กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุชน ซึ่งจุดที่มีรอยครูดที่ตำรวจบอกว่าเป็นจุดชนแล้วมีการพ่นสเปรย์ตรงนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นรอยที่เกิดจากล้อหลังกระเด็นหลุดตั้งแต่ชนแล้วรถถูกลากมามีประกายไฟ
เมื่อถามถึงประเด็นได้ตรวจแอลกอฮอล์หรือไม่ ตำรวจบอกว่าตำรวจสามารถใช้ดุลยพินิจได้ จึงไม่มีการตรวจแอลกอฮอล์ วันนี้จึงต้องมายื่นหนังสือร้องเรียนเพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน นายรณณรงค์ กล่าวว่า ลูกของผู้เสียหายเกิดอุบัติเหตุที่ตัวเมืองจ.ตาก หลังเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วทางตำรวจได้ดำเนินคดีให้ แต่ตนพึ่งทราบไม่รู้ว่าตำรวจคุยกับผู้เสียหายอย่างไร ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าตำรวจสั่งไม่ฟ้อง ส่วนหนึ่งทางผู้กำกับการก็ยอมรับว่าไม่ได้ทำหนังสือหรือรายงานผลคดีนี้แจ้งไปยังผู้เสียหาย จนครอบครัวผู้เสียหายต้องไปเดินเรื่องเพื่อดำเนินการเอาผิดคู่กรณีเพราะมีประเด็นโต้แย้งกันว่าทางผู้ตายเป็นฝ่ายขับรถตัดหน้า
ส่วนคนชนไม่ได้มีความประมาทอะไรได้ดำเนินคดีฝ่ายเดียว ทางครอบครัวผู้ตายจึงติดใจประเด็นนี้ จึงเดินทางมายื่นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้ผบ.ตร.ตรวจสอบสำนวนคดีนี้ว่ามีหลักฐานแน่นหนาหรือไม่ทำไมจึงเกิดประเด็นสั่งไม่ฟ้องได้ แม้จะอยู่ในอำนาจของอัยการแต่ก็ต้องมีความกระจ่าง
นายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้ทางผู้เสียหายไปฟ้องศาลเองและศาลประทับรับฟ้อง ฉะนั้นมีมูลคดีที่เป็นไปได้ว่ามีคนที่ประมาททำให้คนเสียชีวิต และเป็นเรื่องบังเอิญที่คู่กรณีเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยลัยเอกชนที่อยู่ในจังหวัดตาก ส่วนชื่อเจ้าของรถเป็นทีมงานหรือคนที่สนิทกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือโดนแทรกแซงคดีหรือไม่ จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตด้วย หลังจากนี้จะไปยื่นจเรตำรวจให้ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากไม่แจ้งรายงานความคืบหน้าให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบ