ผัวหึงเจอเมียเมาอยู่ในห้องนอนกับเพื่อนชาย ซ้อมจนเพื่อนตาย เมียเดินหายไปกินเหล้าต่อกับเพื่อนบ้าน ปรากฏเพื่อนบ้านช็อกตายอีกศพ

เมื่อเวลา 15.00 น. (2 เม.ย.64) ร.ต.อ รุ่งเรืองชัย อุปกาละ รอง สว.(สอบสวน)สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 1 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยห้างฉัตรแม่ตาล พบร่าง นายณัฐพล อายุ 34 ปี ซึ่งถูกนายธีระพงศ์ อายุ 39 ปี ใช้ทั้งเท้าทั้งหมัดซัดไปที่ศีรษะและลำตัวอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ห้างฉัตรและเสียชีวิตในเวลาต่อมา   

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปชวนนายธีระพงศ์และภรรยา มาดื่มสุราที่บ้านจนเมาได้ที่ ระหว่างที่นายธีระพงศ์ไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้า ปรากฏว่าภรรยานายธีระพงศ์และผู้ตายพากันเข้าไปนอนที่ในห้องนอนและล็อกประตู เมื่อนายธีระพงศ์ มาถึงพบว่าภรรยาอยู่ที่ในห้องกับผู้ตายจึงเข้าใจผิด พังประตูเข้าไปก่อนที่จะทำร้ายผู้ตายจนอาการสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว

เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งเช้าวันนี้มีชาวบ้านในพื้นที่ต่างมาช่วยกันจัดเตรียมงานศพ พบนายศรีนุช อายุ 59 ปี และนางนภาพร อายุ 59 ปี พ่อและแม่ของผู้ตายพร้อมนำไปดูจุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องนอนของผู้ตาย ซึ่งยังพบรอยเลือดหลงเหลืออยู่ โดยพ่อและแม่ของผู้ตายเปิดเผยว่าเมื่อช่วงสายวานนี้สองสามีภรรยาได้ขี่ จยย. มาหาลูกชายตนเองที่บ้านและก็นั่งดื่มสุรากันที่โต๊ะหน้าบ้านระหว่างที่นายธีระพงศ์ ขี่จยย.ไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้าในหมู่บ้านซึ่งห่างกันประมาณ 300 เมตร  ปรากฏว่าภรรยาผู้ก่อเหตุได้พาลูกชายตนเองเข้าไปในห้อง ซึ่งตอนนั้นลูกชายตนเองอยู่ในสภาพเมาอย่างหนักไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเมื่อภรรยาผู้ก่อเหตุพาลูกชายของตนเองเข้าไปในห้องแล้วได้ล็อกประตู ตนเองเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปเรียกให้เปิดประตู เพราะกลัวจะดูไม่ดี ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับผู้ก่อเหตุกลับจากซื้อเบียร์มาพอดี จึงเรียกให้เปิดประตู      แต่ก็ไม่มีใครยอมเปิด 

ฝ่ายนายธีระพงศ์จึงพังประตูห้องนอน ซึ่งลูกชายของตนเองตอนนั้นเมานอนหลับในห้อง ก่อนที่นายธีระพงศ์จะใช้ทั้งเท้า หมัด ท่อนไม้และขวดเบียร์ทุบที่ศีรษะลูกชาย ตนเองจึงพยายามเข้าห้าม แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟัง ตนเองแรง สู้ไม่ได้จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและแจ้งตำรวจดังกล่าว ซึ่งหลังก่อเหตุนายธีระพงศ์ก็ไม่ได้หนีไปไหนยืนรอมอบตัวกับตำรวจ

ด้าน นางศิริพร อายุ 56 ปี หรือ เจ้น้อย เจ้าของร้านส้มตำ เปิดเผยว่าก่อน เกิดเหตุภรรยาของนายธีระพงศ์ได้มาซื้อส้มตำที่ร้านตนเอง จนกระทั่งประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ แม่ของผู้ตายก็วิ่งมาหาตนเองที่ร้านเพื่อให้ไปช่วยห้าม เพราะนายธีระพงศ์กำลังทำร้ายผู้ตาย เมื่อไปถึงนายธีระพงศ์ บอกว่าโมโหที่ภรรยาของตนเองอยู่ในห้องกับชายคนอื่น จึงก่อเหตุดังกล่าว ส่วนภรรยาของผู้ก่อเหตุก็อาศัยช่วงที่ชุลมุนกันได้เดินเท้ากลับไปที่บ้านเช่า และยังไปนั่งดื่มสุรากับ นายมิตร ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กัน และปรากฏว่าเมื่อช่วงประมาณสองทุ่มเศษก็พบว่าชายคนดังกล่าวเสียชีวิตอยู่ที่บนบ้านของหญิงสาวรายดังกล่าว ซึ่งหญิงสาวนอนสลบไสลอยู่ข้างศพ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. (3 เม.ย.64) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 6 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พบ น.ส.สุธาสินี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวลำปาง ภรรยาของนายธีระพงศ์ พร้อมเปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายคนแรก มาชวนตนเองและสามีไปดื่มสุราที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งนั่งดื่มที่โต๊ะหน้าบ้านจนเมาได้ที่ระหว่างนั้นสามี ขี่จยย.ออกไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้าในหมู่บ้านซึ่งห่างกันประมาณ 300 เมตร

ตอนนั้นตนเองเมามากและอยากจะนอน ประกอบกับผู้ตายก็เมาไม่ได้สติเช่นเดียวกัน ตนจึงพาผู้ตายไปนอนในห้องแต่เผลอล็อกห้องจนแม่ของผู้ตายมาโวยวายที่หน้าห้องเพื่อให้เปิดประตูซึ่งเพียงไม่ถึง 5 นาที สามีก็กลับจากซื้อเบียร์มาพอดีสามี  จึงเกิดการเข้าใจผิด ประกอบกับความเมาจึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งหลังจากนั้นตนเองได้เดินกลับมาบ้าน แต่ก็มานั่งดื่มสุราต่อกับเพื่อนข้างบ้านที่บนบ้านเช่าของตนเองอีก หลังจากนั้นก็เผลอหลับไม่รู้เรื่องอะไรอีกเพราะเมามาก และยอมรับว่าไม่รู้ว่ามีคนมาตายที่บนบ้านรายที่สองอีกจนกระทั่ง ผู้สื่อข่าวมาสอบถาม 

ด้าน นางจันทร์เพ็ญ อายุ 55 ปี ภรรยาของนายมิตร ผู้ตายศพที่สอง เปิดเผยว่าสามีมีโรคประจำตัวคือโรคตับแข็งเพราะดื่มสุราจัดเคยช็อคเกือบจะตายมาแล้ว2-3ครั้ง   ส่วนแผลหัวโนและรอยช้ำที่ใบหน้าและลำตัวนั้นเกิดจากสามีตกบันไดเมื่อหลายวันก่อน ส่วนตัวเชื่อว่าสามีเกิดช๊อคเพราะโรคประจำตัวและดื่มสุราและช่วงที่สามีช๊อคก็ไม่มีใครเห็นส่วนสาวรายดังกล่าวก็เมาหนักไม่รู้เรื่องเอาแต่นอนอย่างเดียวจึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว