ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต นายกเทศมนตรี ต.วังวิเศษ ส่วนลูกน้องอีก 2 คน ให้จำคุกตลอดชีวิต ข้อหาร่วมกันฆ่า “ทนายเหว่า” ในพื้นที่ อ.วังวิเศษ

วันที่ 17 พ.ค.2566 ศาลจังหวัดตรัง ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีร่วมกันฆ่า นายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือ ทนายเหว่า แกนนำเรียกร้องที่ดินทำกินสวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัมปทานให้แก่ชาวบ้านยากไร้ เนื้อที่ 638 ไร่ ในพื้นที่ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2564 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ภายในสวนยางพาราของทนายเอง ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานดังกล่าว

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต นายกเทศมนตรี ต.วังวิเศษ ส่วนลูกน้องอีก 2 คน ให้จำคุกตลอดชีวิต ข้อหาร่วมกันฆ่า “ทนายเหว่า”

โดยมี นายชรินทร์รัฐฐ์ ครุฑธิราช หรือ นายกชวน อายุ 52 ปี มีตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี ต.วังวิเศษ อ.วังวิเศษ และมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารของตำรวจ สภ.วังวิเศษ ด้วย ได้ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ ร่วมกับพวกรวม 3 คน ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

• อ่านข่าว : ปูพรม 10 จุด บุกรวบ 3 ผตห.ตามหมายจับ คาดจ้างวานฆ่า “ทนายเหว่า”

โดยวันนี้ศาลชั้นต้น ได้นัดอ่านคำพิพากษา และเป็นการนัดครั้งที่ 5 หลังจากมีการเลื่อนอ่านคำพิพากษามาแล้ว 4 ครั้ง ทั้งนี้ ได้มี นางวรรณา อ่อนชื่นจิตร อายุ 56 ปี ภรรยาทนายเหว่า พร้อมญาติ และทนายความ มารับฟังคำพิพากษา รวมทั้งนายชรินทร์รัตน์ และผู้ต้องหาทั้งหมด ก็ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง

ศาลชั้นต้น ได้พิพากษาประหารชีวิต นายชรินทร์รัฐฐ์ ครุฑธิราช หรือ นายกชวน ในฐานะผู้จ้างวานและร่วมลงมือก่อเหตุ ส่วนลูกน้องอีก 2 คน คือ นายเฉลิมวุฒิ นกรู้รัก หรือ ใหญ่พัว อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ ศาลให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยมีส่วนร่วมในการกระทำ แต่ไม่ได้ร่วมลงมือกระทำในวันเกิดเหตุ

และ นายศรัญญู เกื้อบุญส่ง หรือนิล มือปืนผู้ลงมือก่อเหตุ ชาวหมู่ 1 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ ศาลให้ลงโทษประหารชีวิตเช่นกัน แต่เนื่องจาก นายนิล ให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมซัดทอด นายชรินทร์รัฐฐ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เป็นเหตุให้ศาลพิจารณาลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ซึ่งหลังสิ้นสุดคำพิพากษา ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งเรือนจำจังหวัดตรังทันที โดยเฉพาะ นายชรินทร์รัฐฐ์ ก็จะต้องหลุดจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี และหลังจากนี้ทาง กกต.คงจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ต่อไป

ส่วนทางด้านครอบครัวของทนายเหว่า หลังรับฟังคำพิพากษาแล้ว ก็ได้เดินทางไปที่วัดเขาพระวิเศษ ต.เขาวิเศษ เพื่อไปจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณทนายเหว่า ให้ได้รับรู้ถึงผลการตัดสินของศาลชั้นต้นดังกล่าว และขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ และจะร่วมกันกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ ทั้งนี้ยังมีอีก 2 ศาล ซึ่งจะต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด โดยศพทนายเหว่า แม้จะผ่านมาครบ 2 ปีแล้ว แต่ทางครอบครัวก็ยังคงเก็บศพไว้ที่วัด เพื่อรอการตัดสินของศาล

นายอนุสรณ์ อินทร์อักษร หลานชายทนายเหว่า กล่าวว่า ครอบครัวดีใจที่ได้รับความเป็นธรรม แต่จะยังคงเก็บศพของทนายเหว่าไว้ต่อไป รอจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เพราะต้องการจะเห็นผู้กระทำผิดได้รับโทษทัณฑ์ของตัวเองจริง ๆ เสียก่อน ทางญาติ ๆ จึงจะประกอบพิธีศพให้ เช่นเดียวกับลูกสาวของทนายเหว่า ก็บอกว่า หลังพ่อเสียชีวิตและเก็บศพไว้รอศาลตัดสิน ทางครอบครัวก็จะทำบุญให้ทุกวันพระ

และเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ครบ 2 ปีของการเสียชีวิตของพ่อ จึงได้ร่วมกันทำบุญใหญ่ให้ พร้อมกันนั้น ลูกสาวทนายเหว่า ยังได้ยกมือไหว้ขอบคุณไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่าย อัยการ และศาล ที่ช่วยให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตน