“สันติ” ยัน ประมูล “ท่อส่งน้ำอีอีซี” โปร่งใส พร้อมตรวจสอบอีกครั้ง แจง เจ้าใหม่ให้ผลประโยชน์รัฐอื้อ โยน “กก.บห.” เช็กบิล “พิเชษฐ” หลังกินข้าวกับ “ฝ่ายค้าน”
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมจะนำประเด็นการประมูลโครงการท่อส่งน้ำในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) มาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้านว่า คงไม่มีอะไร กรมธนารักษ์ได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนแล้ว ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท อีสวอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เพราะการประปาส่วนภูมิภาค ถือหุ้นอยู่ 40%
ดังนั้น จึงเป็นบริษัทเอกชน ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจเลยไม่สามารถไปเอื้ออะไรได้ การแข่งขันราคาก็เห็นโดยชัดเจนว่า บริษัทที่แพ้ประมูลได้ให้ประโยชน์กับรัฐในระยะเวลา 30 ปี ประมาณ 24,000 ล้านบาท ส่วนบริษัทที่ชนะประมูล ให้ผลประโยชน์กับรัฐ 25,600 ล้านบาท จากนี้จะดำเนินการอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ที่จะทำ
เมื่อถามว่า การที่นำเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง นายสันติ กล่าวว่า เมื่อกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เห็นกระแสความไม่เข้าใจก็คงจะไปตรวจสอบดูอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพราะต้องเข้าใจว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่ได้รับสัมปทานจ่ายผลประโยชน์ให้กับรัฐ 552 ล้านบาท เมื่อกรมธนารักษ์เปิดประมูลใหม่ บริษัทที่แข่งขันให้ผลประโยชน์กับรัฐ 25,000 ล้านบาท แตกต่างกันมากกว่ากี่เท่าก็คำนวณไม่ถูก ต้องถามบริษัทที่แพ้ประมูลว่าในอดีต 30 ปีที่ผ่านมา เงินเหล่านี้ไปไหนหมด ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่เราไปตรวจสอบ
เมื่อถามว่า กรณีนายพิเชษฐ เป็นส.ส.พปชร. แต่กลับมาตรวจสอบเลขาฯพรรคนั้น นายสันติ กล่าวว่า นายพิเชษฐเพิ่งมาอยู่ใหม่ การที่มาระบุว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ทั้งที่ในพปชร.ไม่มีกลุ่ม จึงไม่อยากไปวิจารณ์ ส่วนจะมีบทลงโทษอย่างไรหรือไม่นั้น เรื่องนี้อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค ยังไม่รู้จะนำเข้าที่ประชุมเมื่อใด
เมื่อถามว่า มีความพร้อมในการชี้เแจงประเด็นนี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร นายสันติ กล่าวว่า ตนพร้อมอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมีข้อทักท้วง 2-3 ประเด็นที่ปรากฏ ในฐานะรัฐก็จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาตรวจสอบดูว่า สิ่งที่ได้ดำเนินการไป การแข่งขันต่างๆ ตรงไปตรงมาหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่บริษัท อีสวอเตอร์ ฟ้องร้องต่อศาลปกครองขอให้คุ้มครองถึง 3 ครั้ง และศาลปกครองก็ยกคำร้องทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าการที่กรมธนารักษ์ยกเลิกการประมูลในครั้งแรกทำถูกต้องแล้วตามสิทธิและหน้าที่ ข้อมูลเหล่านี้คณะกรรมการได้รายงานตนแล้ว
เมื่อถามว่า นายสันติจะเป็นผู้ชี้แจงเรื่องนี้ในสภาใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ต้องดูว่าคณะกรรมการที่อธิบดีกรมธนารักษ์ตั้งขึ้นนั้น ตรวจสอบว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่
เมื่อถามถึงเจตนาของการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในช่วงเวลานี้ มีจุดประสงค์อื่นนอกจากการอภิปรายฯ หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ตนว่าสื่อก็ทราบอยู่แล้วว่าการที่ออกมาเปิดประเด็นเหล่านี้จริงหรือไม่ เช่น การบอกว่า อีสวอเตอร์ เป็นรัฐวิสาหกิจ แล้วทำไมกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ ไม่ดูแล ต้องถามว่าอีสวอเตอร์เป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่
เมื่อถามว่า นายพิเชษฐยังจะสามารถอยู่กับพปชร. ได้หรือไม่ เพราะมีพฤติกรรมไปร่วมกับฝ่ายค้าน นายสันติ กล่าวว่า ให้สื่อช่วยคิดแล้วกัน