สะกดทุกสายตา แพนเค้ก สวมชุดผ้าไทยเดินแบบ ที่ประเทศอินเดีย เรียกเสียงฮือฮาสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ให้กับประเทศไทย เล็งเปิดคอร์สสอนเดินแบบ
เรียกว่าสร้างเสียงฮือฮาอย่างมาก หลังนางเอกและนางแบบสาว “แพนเค้ก เขมนิจ” ไปเดินแบบและถ่ายแบบ ณ มุมไบ ประเทศอินเดีย พร้อมทั้งได้เผยภาพภาพขณะสวมชุดผ้าไทยถ่ายแบบยืนโพสท่าสุดเฟียสสะกดทุกสายตา ซึ่งถือเป็นการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ให้กับประเทศไทย
ล่าสุด แพนเค้ก เปิดใจถึงการไปทำงานที่ต่างประเทศในครั้งนี้ ในกองถ่ายฟิตติ้งละคร สงครามเงิน ณ สตูดิโอ DAD STUDIO BANGKOK 487 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม
ไปมุมไบประเทศอินเดียมา
“ไปแฟชั่นโชว์ค่ะ เป็นงานอเมซิ่งไทยแลนด์ที่จัดที่มุมไบ แพนก็ไปในนามของแบรนด์ขวัญตา ซึ่งเป็นแบรนด์ผ้าไทยที่ได้ไปแฟชั่นโชว์ที่นู่น เราก็ดีใจ เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบใส่อยู่แล้ว และทำงานกับแบรนด์ขวัญตาอยู่แล้ว พอบอกไปแฟชั่นโชว์? เราก็บอกไปค่ะ (ยิ้ม) คืออย่างน้อยพอเราได้ไปเดิน ชาวต่างชาติก็จะได้เห็นของไทย แบรนด์ไทย แม้กระทั่งศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ของไทยที่ไปโชว์อยู่ในงาน ก็เลยคิดว่ามันก็เป็นโอกาสที่ดี เราก็ไปเปิดหูเปิดตาด้วย”
กลายเป็นซอฟพาวเวอร์ที่นู่นเลย
“เพราะชาวต่างชาติจริงๆ เขาประทับใจเสน่ห์ของความเป็นไทยอยู่แล้ว และยิ่งผ้าไทยที่มาในหลากหลายรูปแบบ ผ้าไหม ผ้าฝ้ายหรือผ้าทอต่างๆ ซึ่งเป็นทางที่เราชอบอยู่แล้ว นอกจากไปแฟชั่นโชว์แล้วก็เลยไปถ่ายแบบด้วย กับสถานที่สวยๆ ต่างๆ ของมุมไบค่ะ”
คนอินเดียดูอึ้งไปเลย
“อึ้งเลย (หัวเราะ) คงงงว่าทำไมคนนี้แต่งตัวเยอะจังเลยมาถ่ายรูปแถวนี้ (ยิ้ม) แต่ก็ไปแบบเนียนๆ ค่ะ ไปครั้งนึงเราก็อยากไปถ่ายเกี่ยวกับสถานที่เขา ได้ใส่ชุดของแบรนด์ขวัญตาไปถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ด้วย ก็เลยคิดว่าไม่มีใครรู้จัก ก็เต็มที่ค่ะ จัดเต็ม ใส่ส้นสูงเดินเลย (ยิ้ม)”
มีคนเดินมาทักมั้ย
“มีค่ะ มีคนมาขอถ่ายรูป เขาก็คงไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร คงมองว่าเธอแต่งตัวเยอะจังเลย ขอถ่ายเก็บไว้หน่อย (หัวเราะ)”
มีคอมเม้นต์แซวว่าหนุ่มๆ เหลียวมองกันใหญ่
“ใช่ จังหวะนั้นก็บอกว่ารีบถ่ายเก็บไว้เร็ว เพราะมันเป็นจังหวะที่พอดีมากๆ ที่ 3 คนหันมามองในลักษณะเดียวกัน คือเราถ่ายของเราอยู่แล้ว และเขาก็มาอยู่ข้างๆ เราพอดี ใกล้มาก ช่างภาพก็เลยเก็บช็อตนั้นไว้ได้ทัน แพนก็คิดว่าเป็นโมเม้นต์ที่น่ารักดี คนเขาน่ารักอยู่แล้ว เราก็เลยได้จังหวะที่ได้ภาพนั้นค่ะ (ยิ้ม)”
จะมีไปที่อื่นต่อไหม
“อยากไปค่ะ จริงๆ เรื่องการเดินทางเราชอบอยู่แล้ว ยิ่งได้ไปแฟชั่นโชว์ ได้ใส่ผ้าไทย ได้ทำในสิ่งที่เราถนัดหรือสิ่งที่เราทำได้ อย่างที่บอกว่าซอฟพาวเวอร์ อยากให้คนได้เห็นความเป็นไทยของเรามากขึ้น ถ้ามีโอกาสก็ยินดีค่ะ”
รู้สึกยังไงที่คนมองว่าผ้าไทยกับเราเป็นของคู่กัน
“จริงๆ ก็ใส่หลากหลายรูปแบบค่ะ เพียงแต่เราได้ทำงานกับหลายๆ แบรนด์ไทยที่ไปนำเสนออยู่ที่ต่างประเทศ แพนว่ามันก็เป็นการเปิดหูเปิดตา เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ของเราด้วย บ้านเขามีอะไร ทำอะไร สนใจอะไรในความเป็นไทยของเรามากน้อยแค่ไหน และแบรนด์ไทยของเราก็บอกเลยว่าไม่แพ้ที่ไหนในโลกจริงๆ ทั้งฝีมือ ทั้งความสามารถค่ะ (ยิ้ม)”
ไม่ว่าไปทริปไหนคนก็เอามาลงติ๊กต๊อกตลอด
“เฟียตมาก จริงๆ มันก็ขึ้นอยู่กับโจทย์ของแต่ละงาน เราก็พยายามทำตามโจทย์ที่เจ้าของงานอยากได้ และพอดีบางชุดมันก็อาจจะเอื้อให้เราทำอะไรได้บ้าง เช่นสะบัดบ้าง เดินสับบ้าง ก็แล้วแต่โจทย์ของแต่ละชุด ซึ่งก็สนุกดี และบางทีชุดก็จะมีความยากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องทำการบ้านกับชุด ก็เป็นประสบการณ์ จริงๆ เป็นความท้าทาย มันไม่มีอะไรเหมือนเดิม จริงๆ การใส่ชุดใหม่ๆ ในทุกๆ วัน มันก็เป็นโจทย์ที่ยาก”
เด็กๆ รุ่นใหม่ก็หัดเดินแบบจากคลิปเรานี่แหละ
“ก็ดีใจที่ยังมีโอกาสได้ทำสิ่งที่เรารักอยู่ ณ วันนี้ จริงๆ ก็มีการแชร์งานที่ทำหลากหลายอย่าง แต่เรายังได้มีโอกาสเดินหรือทำในสิ่งที่รัก ได้ทำงานกับพี่ๆ ในสายแฟชั่นที่เราเคยทำงานด้วย ก็เป็นสิ่งที่เราดีใจและรู้สึกขอบคุณที่เราได้มาเดินตรงนั้น พอได้เดินเราก็มีความสุข ก็พยายามพัฒนาอยู่ตลอด และทำให้มันเต็มที่ ก็มีน้องๆ ถามมาเยอะว่าขอมาเรียนกับพี่แพนได้มั้ย ก็ยังคิดว่าเราควรจะเปิดคอร์สสอนน้องๆ เฉพาะกลุ่มดีมั้ยนะ ก็มีเป็นแพลนอยู่เหมือนกันว่าอยากจะทำตรงนี้ค่ะ”
จะเปิดเป็นโรงเรียนเลยมั้ย
“อาจจะเป็นคอร์สก่อนสำหรับน้องๆ ที่สนใจ แต่จะรุ่นอายุไหนเดี๋ยวเรามาว่ากัน ต้องบอกว่าใช้ประสบการณ์ล้วนๆ กำลังเป็นแผนอยู่ค่ะ (ยิ้ม) จริงๆ ไม่กล้าบอกว่าสอน แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์มากกว่า ผิดถูก ลักจำบ้าง ได้รับการสอนมาบ้าง บางทีแต่ละเทคนิคมันก็ปรับตามแต่ละสถานการณ์การทำงาน คงเป็นการแนะนำกันมากกว่าค่ะ”
การที่เรามีครอบครัวแล้ว การใส่ชุดต้องเลือกมากขึ้นมั้ย
“ไม่ค่ะ พี่หมีไม่มีๆ (ยิ้ม) หมายถึงว่าไม่ค่อยได้ใส่ชุดอะไรที่มันมากไป หรืออาจจะไม่ได้ดูโป๊เลย (หัวเราะ) แล้วแต่ชุดมากกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยมีอะไรที่มันหวือหวาแบบนั้น พี่หมีก็ไม่เคยขอดูค่ะ เราก็จะให้เกียรติในการทำงานกันไป”
แต่คนชอบแคปชั่นเวลาลงแต่ละรูป
“จริงเหรอ มันก็แล้วแต่โมเม้นต์ตอนนั้นค่ะ หรืออะไรที่เราเก็บเกี่ยวได้ใน ณ เวลานั้น เราก็จะเอามาเป็นแคปชั่นบ้าง แล้วแต่ฟีล แต่อย่าคาดหวังนะคะ (หัวเราะ) เพราะบางทีมันอยู่ที่โมเม้นต์ ณ ตรงนั้น หรือเราได้อะไรจากที่พี่ๆ ให้มา เราก็จะเอามาเขียนเพื่อให้คนคิดตามกับภาพที่มันเกิดขึ้น หรือคนจะได้เข้าใจ”
บ้านที่เชียงใหม่เป็นยังไงบ้าง เพราะตอนนี้ภาวะฝุ่นเยอะมาก
“ก็ตามนั้นเลยค่ะ แต่แพนเชื่อว่าคนที่เขาอยู่ เขาก็มีวิธีในการดูแลตัวเองกันมากขึ้น หรือเราอาจจะต้องสวมใส่แมสเยอะขึ้น เพื่อเป็นการดูแลตัวเอง แต่ตอนนี้บ้านก็เรียบร้อยแล้วแหละ ก็อาจจะมีแต่งเติมเล็กน้อย ถ้ามีโอกาสเราก็จะขึ้นไปกันเรื่อยๆ คนก็จะบอกว่าอย่าไปๆ แต่ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเราไปก็เหมือนได้พัก แต่เราก็สามารถหลีกได้ แพนเชื่อว่าคนที่เขาใช้ชีวิต เขาก็จะต้องมีวิธีที่จัดการในการดำรงชีวิตตรงนั้น ตอนนี้ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่ว่างก็จะสับเปลี่ยนกันไปดูค่ะ”
มีวิธีการป้องกันยังไง
“ก็ใส่แมสนี่แหละค่ะ แต่มันก็ไม่ได้หนักทุกวัน แต่เราก็อาจจะต้องดูแลตัวเองกันมากขึ้น”
เป็นบ้านพักตากอากาศหรือยังไง
“จริงๆ ก็เป็นบ้านของคุณน้าค่ะ และคุณแม่ก็ไปอยู่ตรงนั้นด้วย และตรงที่อยู่ก็ไม่ได้เมืองมาก อาจจะไม่ได้ถึงกับมลภาวะเยอะ มันก็มาเป็นช่วงๆ แหละ แต่ก็อย่างที่บอกว่าถ้าเราไปในช่วงวันหยุดหรือช่วงเทศกาล เราก็ต้องปรับตัวกับการอยู่ตรงนั้น ก็เป็นกำลังใจให้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ ณ ตรงนั้นด้วย ถ้าเราไปก็ต้องปรับตัว ถ้าเราอยากไปอยู่ตรงนั้น เราอยากเดินทาง เราก็ต้องดูแลตัวเองค่ะ”