“ณัฐชา” ก้าวไกล ไม่อภิปรายคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย มองควรให้ “เศรษฐา” เข้าแสดงวิสัยทัศน์ เปรียบเทียบกับครั้ง “พิธา” ย้ำรอเห็นหน้าตารัฐบาลใหม่ ก่อนเคาะโหวต ไม่เห็นชอบ-งดออกเสียง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองเลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้บอกว่าแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยที่จะมีการโหวตในสัปดาห์หน้าไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ก็ได้ ทางพรรคก้าวไกลมองว่าควรจะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่

นายณัฐชาระบุว่า แน่นอนว่าบุคคลที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือบุคคลที่จะมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนในอีก 4 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นทิศทางการทำงานของว่าที่นายกฯ เป็นอย่างไร ก็ควรให้ผู้แทนที่พี่น้องประชาชนส่งมาทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้สอบถาม ซึ่งในที่ผ่านมา การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเราก็ได้มีการซักถามเป็นวงกว้างว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีแนวคิดมีความเห็นมีแนวปฏิบัติอย่างไร ในการดำเนินงานเป็นนายกรัฐมนตรีในอีก 4 ปีข้างหน้า

และครั้งนี้เป็นการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่จะมีการเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน ในการที่จะเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ ถ้ามีเพื่อนสมาชิกจะสอบถามในสภาก็สามารถเข้ามาชี้แจงได้ ประธานรัฐสภามีอำนาจที่จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงได้

เมื่อถามว่าในวันที่ 22 สิงหาคมจะเป็นวันโหวตเลือกนายกฯ แล้ว ทางพรรคก้าวไกลเตรียมอภิปรายคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ในส่วนของคุณสมบัติเราไม่ได้มีการสอบถามอะไรมาก ที่ผ่านมาได้ผ่านการเลือกตั้งผ่านประชาชนมาแล้ว ประชาชนได้ตัดสินใจผ่านการหาเสียงตลอดระยะเวลาที่ลงเลือกตั้งไปแล้ว ในส่วนประเด็นข้อซักถามต่างๆ อาจจะไม่มี

ส่วนทิศทางการโหวตของพรรคนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคคก้าวไกลได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าในที่ประชุมส.สของพรรคจะไม่โหวตสนับสนุนนายเศรษฐา เนื่องจากความคลุมเครือของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง ณ วันนี้ ยังไม่เห็นหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจ โหวตไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง นายณัฐชา กล่าวว่า เราเปิดโอกาส แต่เรายังไม่เห็นหน้าตารัฐบาลใหม่ ดังนั้น เราจึงให้โอกาสจนถึงวินาทีสุดท้ายคือวันที่ 21 ส.ค. ว่าสุดท้ายแล้วจะประกาศความชัดเจนหรือไม่ พรรคก้าวไหลก็จะให้คำตอบได้ในวันนั้น แต่ถ้าไม่เห็นความชัดเจนก็จะโหวตไม่เห็นชอบ

เมื่อถามว่าตอนนี้มีกระแสว่านายกฯจะเป็นนายเศรษฐา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หากเทียบกัน มองว่านายเศรษฐาดีกว่าหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ตั้งแต่เราหาเสียงเลือกตั้งมาพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมีนโยบายในหลายๆ ด้านที่ใกล้เคียงกัน และความต้องการของประชาชนหลังเลือกตั้งก็อยากเห็นเพื่อไทย-ก้าวไกล ร่วมกันจับมือจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนพรรคก้าวไกลได้เสียงสนับสนุนมาเป็นอันดับ1 จึงสนับสนุนนายพิธา แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยวมีเสียงสนับสนุนมาเป็นอันดับ 1 เราก็สนับสนุนแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ไม่มีแนวทางว่าพรรคก้าวไกลจะไปสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคพลังประชารัฐ หรือเห็นว่าแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐดีกว่า

ทั้งนี้เมื่อถามต่อถึงความคาดหวังของการทำหน้าที่ประธานสภา นายณัฐชา กล่าวว่า ครั้งที่แล้วก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของประธานรัฐสภา เพราะเป็นอำนาจตามข้อบังคับ ส่วนครั้งนี้จะต้องขอความเห็นใจว่าสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภา ที่มีการลงมติอย่างใดอย่างหนึ่งไปแล้ว จะมีความผูกพัน และบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ว่าการทำหน้าที่ของตัวแทนประชาชนนั้น ทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่