วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส. ) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีส่งมอบและรับมอบเครื่องมือวิทยาศาสตร์และอุปกรณ์สำหรับตรวจพิสูจน์ยาเสพติด จากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าการยึดอายัดทรัพย์สินของ นายอุปกิต สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.อุปกิต ว่า “ได้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์ไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ดังนี้ อายัดบัญชีธนาคาร 28 บัญชี เป็นเงิน 3,000,000 บาท”
ต่อมา วันที่ (22 พ.ย. 66) ได้อายัดที่ดิน จำนวน 29 แปลง มูลค่า 282 ล้านบาท และต้องทยอยอายัดอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเราจะมีการสืบทรัพย์ว่า ทรัพย์สินรายการอื่นๆ อยู่ที่ใดบ้าง หากเป็นรถยนต์หรูจะต้องหาตัวรถให้เจอถึงจะดำเนินการได้ หลังจากนี้จะมีการเปิดปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการสืบทรัพย์สินที่เหลือว่าอยู่ที่ไหน และทรัพย์สินเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร หากย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ในขณะนั้น ได้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สิน โดยอายัดเป็นเงินสดของ สว.อุปกิต ไว้แล้ว จำนวน 200,000 บาท
- แลนด์มาร์กเมืองน่าน คล้าย ประตูสวรรค์บาหลี เจ้าของโร่แจงแล้ว
- แม่แก๊งยิงนักศึกษาอุเทน – ครูเจี๊ยบ เชื่อ ตร.จับผิด ยัน รู้นิสัยลูกดี
- เต้-มงคลกิตติ์ โดนคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ปม ข่มขู่ทนายเดชา ช่วง คดีแตงโม
โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เราตรวจสอบพบว่ายังมีทรัพย์สินที่เป็นเงินมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ที่ถูกถ่ายโอนไปยังต่างประเทศ จากนี้เราจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการทำหนังสือส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อประสานกองความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินการยึดอายัด พร้อมให้ความมั่นใจว่า ป.ป.ส. ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายการทรัพย์สินอื่นๆ เพิ่มเติม และจะออกคำสั่งยึดและอายัดต่อไป เพราะเราจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ทรัพย์สินรายการใดบ้างที่มาจากการกระทำความผิดในเรื่องยาเสพติด หรือทรัพย์สินนั้นมาจากการประกอบอาชีพสุจริตจริงๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดดราม่าเกี่ยวกับ สว.อุปกิต ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา พิจารณาวาระเรื่องด่วน เรื่องการขอออกหมายเรียก สว. สอบสวนในฐานะผู้ต้องหา คดีอาญา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 หลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือมายังวุฒิสภา ขออนุญาตออกหมายเรียกตัว นายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. ไปสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามมาตรา 11/7 พระราชบัญญัติวิธีพิจารณายาเสพติด พ.ศ.2550 ในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 127 จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้ สว.อภิปรายแสดงความคิดเห็น ว่าจะส่งตัวนายอุปกิตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบสวนเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ระหว่างสมัยประชุม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 หรือไม่ ซึ่งประธานในที่ประชุม ประกาศให้ลงคะแนน พร้อมแจ้งว่าจะเป็นการออกเสียงโดยเปิดเผย ผ่านเครื่องออกเสียงลงคะแนน ยึดเสียงข้างมาก ผลการลงมติพบว่า เสียงข้างมาก 174 เสียงไม่เห็นด้วยกับการออกหมายเรียกตัวนายอุปกิต ไปสอบสวนฐานะผู้ต้องหาคดีอาญาระหว่างสมัยประชุม ต่อ 7 เสียง และมี สว.ที่งดออกเสียง 10 เสียง