สองผัวเมียวัย 57 และ 60 ปี ออกไปเลี้ยงวัวกลางทุ่งนาพร้อมเพื่อน รวม 3 คน เกิดฝนฟ้าคะนองไม่กี่นาที ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว สองผัวเสียเสียชีวิตคาที่ อีกคนสาหัส 

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. เมื่อเวลา 16.00 น(4 เม.ย.)ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ณฐกร แหววกระโทก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งเหตุ มีชาวบ้านถูกฟ้าผ่า  ที่บริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาด้านทิศเหนือบ้านแสงเจริญ ต.ชุมแสง ไปประมาณ 1 กิโลเมตร จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมเจ้าหน้าที่ รพ.ต.ชุมแสง  ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมไม้ยกสูงประมาณ 1 เมตร พื้นปูด้วยไม้ พบศพนายสมพร  พรมมนัส  อายุ 57 ปี ชาวบ้านแสงเจริญ ต.ชุมแสง สภาพนอนหงาย นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ เสียชีวิตบนกระท่อมนา

บริเวณเสาเสากระท่อม ด้านล่างอยู่กับพื้นดินพบศพนางลิม  พรมมนัส  อายุ  60 ปี ภรรยาของนายสมพร ที่พบศพรายแรก เสียชีวิตในสภาพนั่งยองๆ นุ่งกางเกงขายาวสีลาย สวมเสื้อยืดแขนยาว สวมตุ้มหูทองเหลือง และมีแหวนทองเหลืองที่นิ้วนางด้านซ้าย  ที่บริวเณไหล่ขวามีรอยไหม้

ห่างจากกระท่อมนาประมาณ 3 เมตร ยังพบนางสาวรส แชะรัมย์ อายุ 58 ปี สภาพนอนหงายสลบไม่ได้สติ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.สตึก ก่อนส่งต่อ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ต่อมาได้ฟื้นคืนสติมาได้ แต่แพทย์ให้พักดูอาการ

ตรวจสอบภายใกระท่อม พบกระเป๋าแบบคาดเอว ซึ่งเป็นของสองสามีภรรยา แขวนไว้ที่เสากระท่อนภายในมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงสีดำเปิดเครื่องไว้อยู่ในสภาพปกติ คาดว่าจุดศูนย์กลางของสายฟ้าน่าจะอยู่กลางกระท่อมนา

นายส่ง พรมมนัส  อายุ 51 ปี ญาติผู้ตาย เล่าว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนออกไปเลี้ยงวัวที่บริเวณทุ่งนา นั่งหลบฝนที่กระท่อมห่างจากกระท่อมที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร

ช่วงนั้นเกิดมีพายุฤดูร้อนฝนตกฟ้าคะนอง พร้อมฟ้าผ่าเป็นระยะ ต่อมมาได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังมาก จนคิดว่าฟ้าผ่าตัวเองหรือไม่ แต่ก็ปลอดภัย พอฝนซาลงประมาณ 30 นาที ตนได้เดินออกไปดูที่กระท่อมของผู้ตาย มองเห็นสภาพนายสมพรและนางลิมเสียชีวิตแล้ว  ส่วนนางสาวรส นอนหงายเปียกฝนบนพื้นนาจึงเข้าช่วยปั๊มหัวใจ เห็นขากระตุกรู้สึกตัวขึ้น  จากนั้นตนรีบวิ่งเข้าหมู่บ้านแจ้งเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยเหลือ

ด้านนางสายลม  พรมมนัส  อายุ 39 ปี ลูกสาวผู้ตาย บอกว่าสงสารพ่อกับแม่ ที่เลี้ยงลูกมา 4 คน ชาย 2 หญิง 2 แต่มีอาชีพแค่ทำนา จึงจำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์ไปด้วยเพื่อเสริมรายได้ ซึ่งพ่อกับแม่จะต้องเลี้ยง 6 ตัว ของครอบครัวที่มีอยู่ เมื่อหลายปีก่อนพ่อเคยประสบเหตุขับรถบรรทุกคว่ำมาแล้ว จนต้องป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์เดินไม่แข็งแรง ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดิน คิดว่าเคราะห์จะหมดไปแล้ว แต่ก็ยังมาเกิดเหตุขึ้นได้อีก