เผยนาทีแม่บ้าน อบต. ขับกระบะตัดหน้ารถกู้ภัย เบรกไม่ทันชนยับ ร่างลอยออกจากซากรถ เสียชีวิตในร่องน้ำ

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 มิ.ย. ร.ต.ต.นหัสนัยน์ ชัยยะพลากร ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้ง เกิดอุบัติเหตุ รถตู้กู้ภัยชนกับรถยนต์มิร่ากระบะ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคาที่หนึ่งราย เหตุเกิดบริเวณ หน้าซอยตากาด ถ.สุขุมวิท ม.4 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถติดกันเป็นแถวยาว จึงเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบรถตู้ของกู้ภัยสว่างพรกุศล สีขาว ทะเบียน  2061 ระยอง จอดคาอยู่บนถนนตรงเลนขวา สภาพด้านหน้าพังเข้ามาถึงห้องเครื่อง กระจกแตก โดยคนขับซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยปลอดภัย

ห่างออกไป 5 เมตร พบรถกระบะมิร่า สีขาว หงายท้องสภาพพังยับทั้งคัน คนขับผู้หญิงกระเด็นตกลงไปในร่องเกาะกลางถนน ตรวจพบร่างโชกไปด้วยเลือดเสียชีวิตคาที่ ตรวจสอบเบื้องต้นพบบาดแผลหลายแห่งก่อนจะนำศพส่งชันสูตร รพ.ระยอง

จากการตรวจสอบหลักฐาน ผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.อภิรมฤดี  อายุ 54 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ชัยภูมิ ทำงานเป็นพนักงาน อบต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถไปทำงานแต่มาเกิดอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต จากการสอบสวน นายวิวรรณ์  อายุ 60 ปี คนขับรถกู้ภัย ซึ่งยืนรออยู่ในจุดเกิดเหตุ ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกชนรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดตรงศาลาแดง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง จึงนำเครื่องมือตัดถ่างขับไปช่วยเหลือ

ขณะกำลังขับรถมาทางเลนขวา จู่ ๆ รถคู่กรณีได้ขับตัดหน้ากระชั้นชิด จนไม่สามารถหยุดรถได้ทัน พุ่งชนเต็มแรง หลังบังคับรถหยุด ได้รีบลงไปช่วยเหลือ พบว่าคนขับกระเด็นออกจากตัวรถและเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยมีภาพจากกล้องหน้ารถเป็นหลักฐาน ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ที่ติดอยู่ภายในรถที่กำลังจะไปช่วย ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกชุดไปช่วยเหลือแล้ว

สำหรับภาพจากกล้องหน้ารถ ขณะเกิดเหตุ รถยนต์ของผู้เสียชีวิตได้ขับขึ้นมาเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งตรงจุดกลับรถ เป็นจังหวะที่รถกู้ภัยขับมาทางตรง จึงพุ่งชนเต็มแรง จนรถพลิกคว่ำหงายท้อง คนขับกระเด็นหลุดออกจากตัวรถไป

ด้านเพื่อร่วมงานของผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ อบต.บ้านแลง ต้องขับรถไปทำงานบนถนนสายนี้ทุกวัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหลักฐานในจุดเกิดเหตุ พร้อมควบคุมตัวคนขับรถตู้ไปทำการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมแจ้งให้ทางญาติของผู้เสียชีวิตทราบเรื่อง เพื่อติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป