![สรุปดราม่า #ริมน้ำ](https://www.brighttv.co.th/wp-content/uploads/2021/07/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A2.jpg)
สรุปดราม่า #ริมน้ำ – อาจารย์แพทย์ของสถาบันการแพทย์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมน้ำ โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติให้ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิให้บุคลากรด่านหน้าที่ฉีดซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม ซึ่งขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยของสถาบันที่อาจารย์แพทย์คนดังกล่าวทำงานอยู่ กำลังทดลองอยู่ว่าหาก ฉีดกระตุ้นด้วยไฟเซอร์กับแอสตร้าเซเนก้า อย่างไหนให้ผลดีกว่า
ซึ่งอาจารย์แพทย์รายนี้ก็เสนอตัวอาสาทดลองโครงการวิจัยนี้ต้องเลือกว่าจะอยู่กลุ่มฉีดไฟเซอร์หรือแอสตร้าเซเนก้า โดยถ้าอยู่กลุ่มแอสตร้าเซเนก้า ก็จะได้ฉีดในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีข้อมูลสนับสนุนอยู่แล้วว่าแอสตร้าเซเนก้า จะกระตุ้นภูมิได้และทนทานต่อสายพันธุ์เดลต้า แต่ถ้าอยู่กลุ่มไฟเซอร์ก็ต้องแบกรับความเสี่ยง เพราะยังไม่มีเคยมีการฉีดไฟเซอร์กระตุ้นซิโนแวคมาก่อน และยังไม่รู้ว่าวัคซีนจะมาเมื่อไหร่ แต่ท้ายสุดก็ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครทดลองฉีด “ไฟเซอร์เต็มโดส 1 เข็ม”
ซึ่งจากกรณีเรื่องราวของโพสต์ที่อาจารย์แพทย์ได้เล่ามาจึงทำไปสู่การตั้งคำถามของชาวสื่อสังคมออนไลน์ แม้ว่าจะมีบางส่วนที่เข้ามาคอมเม้นต์ชื่นชมและขอบคุณในความเสียสละแต่คนอีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่าในขณะนี้ คนอยากฉีดไฟเซอร์กันทั้งประเทศ แต่กลับอ้างโครงการวิจัยเอาไฟเซอร์มาให้อาจารย์แพทย์ฉีด แทนที่จะให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานด่านหน้าจริง ๆ ได้ฉีด ไม่ใช่นี่มันเสียสละตรงไหนมันคือข้ออ้างที่จะแซงคิวฉีดวัคซีนเอาตัวรอดก่อนชัดๆ ส่วนการวิจัยทดลองที่ว่ามาก็เป็นเพียบข้ออ้างเพราะว่า ทดลองในสิ่งที่คนทั่วโลกรู้กันอยู่แล้วว่า mRNA ย่อมดีกว่าไวรัลเวกเตอร์
ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตเข้ามาแก้ต่างให้อาจารย์แพทย์คนดังกล่าวว่า ท่านเป็นคุณหมอเด็กเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ ทำงานเป็นด่านหน้ารักษาเด็ก ๆ ที่ติดโควิด เช่นกัน ซึ่งประเด็นคำคัญที่ โซเชียลต้องการคำตอบคือ เอาวัคซีนไฟเซอร์มาจากไหน นำเข้ามาเองหรือแบ่งมาจาก 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐฯ จะบริจาคให้ไทย หากนำมาจากส่วนที่สหรัฐฯแบ่งมาให้ฉีดกระตุ้นภูมิให้บุคลาการด่านหน้า ก็ถือว่าเป็นการละเมิดมติที่ตกลงกันไว้เพราะนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทดลองให้สูญเปล่า และการทดลองนี้ประกาศรับสมัครตอนไหน ทำไมกลุ่มอาสาฉีดไฟเซอร์ถึงเต็มก่อน เหลือแต่กลุ่มแอสตร้าเซเนก้า ซึ่งมันผิดปกติของการทำวิจัยซึ่งปกติแล้วการวิจัยหรือทดลองอะไรจะไม่ให้กลุ่มทดลองรู้รายละเอียดหรือเลือกกลุ่มได้ เพราะการได้รับทราบรับรู้ส่วนสำคัญของการวิจัยอาจเป็นตัวแปรที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ได้
โดยในประกาศรับอาสาสมัครพบว่ามีกลุ่มทดลองทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ
กลุ่ม 1 ฉีดซิโนฟาร์มเป็นเข็มสาม
กลุ่ม 2 ฉีดแอสตร้าฯ
กลุ่ม 3 ฉีดไฟเซอร์เต็มโดส
กลุ่ม 4 ฉีดไฟเซอร์ครึ่งโดส
คำถามจึงเกิดขึ้นว่าจะทดลองฉีดครึ่งโดสไปทำไม เสียของเปล่า ๆ แทนที่จะเอามาฉีดแบบเต็มโดสให้อาสาที่จะเข้ามาทดลองก้ควรจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาชีพทั่วไป ที่ต้องเจอกับความเสี่ยงอื่นๆเช่นคนขับแท็กซี่ แม่บ้าน พยาบาล หรือสัปเหร่อที่ต้องเผาศพทั้งวัน
ตอนนี้เหมือนเกิดแคมเปญใหม่ในเฟซ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่จบจากสถาบัน #ริมน้ำ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์คู่กับท่านคณบ่ดี พร้อมกับข้อเรียกร้อง #นําmRNAvaccineเข้ามาเป็นวัคซีนหลัก เลิฟอีเนอจี้แคปชั่นทุกคนมากกก 5555555555 pic.twitter.com/7LUSVYxXqn
— อินเทิร์นโค้ดคลุงซ์ lll (@codekungz) July 14, 2021
จากประเด็นทั้งหมดทำให้เกิดแฮชแท็ก #ริมน้ำ ขึ้นในทวิตเตอร์ คนมองว่าที่ผ่านมากลุ่มอาจารย์แพทย์ริมน้ำไม่เคยออกมาเรียกร้องให้รัฐซื้อไฟเซอร์ อวยแต่ซิโนแวค แต่ตอนนี้จะมาฉีดไฟเซอร์ก่อน บุคลากรทางการแพทย์ที่จบจากสถาบันริมน้ำหลายคนพร้อมใจกันเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก เป็นภาพถ่ายตอนรับใบประกอบวิชาชีพจากคณบดี พร้อมเขียนแคปชั่นถึงดราม่าที่เกิดขึ้น เช่น อยากลำบากใจลองไฟเซอร์บ้างจัง, ขอเสียสละรับไฟเซอร์เต็มโดสด้วยคนได้ไหม ฯลฯ
![](https://www.brighttv.co.th/wp-content/uploads/2021/07/E6PJRXxUYAE7j0D.jpg)
![](https://www.brighttv.co.th/wp-content/uploads/2021/07/E6PJRXwVkAA9Hgw-1.jpg)
![](https://www.brighttv.co.th/wp-content/uploads/2021/07/E6PJRXyVUAA22FN-1.jpg)
![](https://www.brighttv.co.th/wp-content/uploads/2021/07/E6PJRXrVcAIYSwv-1.jpg)
ผลข้างเคียงสุดแปลก สาววัย 17 โวย ฉีดวัคซีน Pfizer แล้วทำให้ หน้าอกโตขึ้น จนต้องเปลี่ยนไซส์ชุดชั้นใน