สภาฯ ถกพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฝ่ายค้าน ติงส่อเอื้อนายทุน-ขัดสนธิสัญญาระหว่างประเทศ สุดท้ายผ่านฉลุย รับหลักการวาระแรก 373 เสียง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ที่เสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะเสนอ และร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง พ.ศ… เสนอโดยนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ และคณะเป็นผู้เสนอ
โดยมีสาระสำคัญ คือ การสนับสนุนนำกัญชา กัญชงมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ การใช้ตามวิถีชุมชน รวมถึงการกำหนดมาตรการกำกับดูแลการผลิต นำเข้า ส่งออก ขายหรือมีไว้ในครอบครอง และการควบคุมการขาย การโฆษณา การบริโภคกัญชา กัญชงเพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคล โดยให้มีคณะกรรมการกัญชา กัญชง มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มีหน้าที่ดูแลเรื่องกัญชาทางการแพทย์ อุตสาหกรรม วิจัย โดยกำหนดให้การปลูกกัญชา เพื่อใช้ในครัวเรือนในการดูแลรักษาสุขภาพตัวเองและครอบครัวที่อาศัยในที่เดียวกัน ให้ปลูกได้ไม่เกินปริมาณที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ต้องมีการจดแจ้ง ถ้าเป็นเขตกทม.ให้จดแจ้งต่อผู้ว่าฯ กทม. ส่วนต่างจังหวัดให้จดแจ้งต่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ใบจดแจ้งมีอายุ 1 ปี หากประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก การขาย หรือการโฆษณา ต้องได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุ 3 ปี หากนำเข้า ส่งออก ขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันกำหนดห้ามขายกัญชา กัญชงแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ยกเว้นได้รับอนุญาตจากแพทย์ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 30,000 บาท ทั้งนี้ ในบทเฉพาะกาลระบุไว้ว่า ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่ร่างกฎหมายใช้บังคับ การนำเข้ากัญชา กัญชง ทำได้เฉพาะ 1.กรณีศึกษา วิเคราะห์ วิจัย 2.เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือเพื่อประโยชน์ราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่เป็นห่วงร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว แม้เป็นเรื่องดี นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ รักษาโรค แต่เป็นห่วงเรื่องมาตรการควบคุมการใช้กัญชาจะคุมไม่ได้ และส่อเอื้อให้นายทุน มากกว่าช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะการกำหนดบทนิยาม คำว่าผลิตให้หมายรวมถึงการปลูก ซึ่งตามร่างกฎหมายต้องขอใบอนุญาตซึ่งมีขั้นตอนและค่าใช้จ่าย ที่ประชาชนหรือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถดำเนินการขออนุญาตได้ และหากฝ่าฝืนจะเป็นผู้มีความผิดทันที ซึ่งค่าธรรมเนียมการขออนุญาตปลูกกัญชา มีราคาแพงถึง 50,000 บาท และเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้เน้นเรื่องเศรษฐกิจมากเกินไป ไม่มีการควบคุมเรื่องครอบครัว เพราะกัญชาก็ยังเป็นกัญชาเสพแล้วเมา และนำไปผสมกับพืชอื่นได้ จนทำให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา และขัดกับหลักศาสนาอิสลามด้วย
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า พรรคก้าวไกลได้เสนอกฎหมายกัญชาฉบับประชาชนเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังค้างอยู่ที่ครม. ส่วนรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่กำลังพิจารณาอยู่นี้ เป็นร่างกฎหมายที่ดีที่ให้ท้องถิ่นได้รับใบอนุญาตจดแจ้ง และให้ชาวบ้านปลูกที่บ้านได้ ให้สิทธิเสรีภาพในพื้นที่รโหฐานที่ประชาชนจะทำได้ คล้ายกับการทำเบียร์ในบ้าน แต่ดูเหมือนเป็นเสรีในหลักการ แต่บางอย่างอาจดูเป็นการผูกขาดโดยกลไกหรือไม่
นายเท่าพิภพ อภิปรายต่อว่า ตนอยากเสนอให้ปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อกระจายรายได้ และเก็บภาษีให้เข้าท้องถิ่น 100% และอยากให้ท้องถิ่นจัดโซนนิ่งการปลูกและใช้เพื่อนันทนาการ เสนอให้ตัดค่าทำเนียมใบอนุญาต จาก 50,000 บาท ให้เหลือ 5,000 บาท ส่วนเรื่องการให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจที่ปลูกโดยไม่มีหมาย และไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ถือเป็นการใช้อำนาจเกินหน้าที่ เพราะพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของประชาชน ตนขอบคุณที่พรรคภูมิใจไทยสู้เพื่อปลดล็อกกัญชา แต่จะถูกต้องมากขึ้นหากมีการกำหนดรายละเอียดอย่างรอบคอบ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กังวล 3 ประเด็นเรื่องกฎหมายกัญชาคือ 1.เส้นแบ่งระหว่างการเป็นคุณกับโทษของกัญชาในกฎหมายยังไม่ชัดเจน การควบคุมยังกำกวม ขณะนี้เด็กเยาวชนเปิดหน้าเสพกัญชากันมาก แม้กฎหมายยังไม่ออกมาบังคับใช้ เด็กเสพยาบ้ามีเยอะแล้ว อย่าให้มีกัญชาเข้ามาอีก 2.ข้อผูกพันสนธิสัญญาระหว่างประเทศของสหประชาชาติ เรื่องยาเสพติดระบุว่า กัญชาคือยาเสพติด ให้นำไปใช้ทางการแพทย์ และศึกษา วิจัยเท่านั้น ห้ามนำไปใช้ทางการค้า ธุรกิจ แต่ประเทศไทยสร้างกระแสจะรวยเพราะกัญชา ขอให้ดูให้ดี สภาฯ อย่าออกข้อกฎหมายขัดข้อผูกพันระหว่างประเทศของยูเอ็น อย่าหละหลวม และ 3.เงื่อนไขการขออนุญาตปลูกกัญชา ควรทำให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ด้วย กระจายให้ทั่วถึง
“ถ้าจะทำจริงๆ ต้องทำชาวบ้านได้ประโยชน์ ถ้าทำไม่ดีประเทศจะซวย คนยกมือผ่านก็จะซวยด้วย ดังนั้นต้องตั้งสตินิดหนึ่ง ถ้าไม่รอบคอบ และตั้งสติไม่ดี จะกลับตาลปัตร การสร้างกระแสที่ความจริงไม่ครบถ้วนถือว่าเป็นบาป” นายสุทิน กล่าว
หลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้นในเวลา 17.14 น.ที่ประชุมลงมติรับหลักการด้วยคะแนน 373 ไม่รับหลักการ 7 งดออกเสียง 23 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. จำนวน 25 คน แบ่งเป็นครม. 5 คน ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน 20 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างของนายอนุทินกับคณะเป็นร่างหลักในการพิจารณาในวาระที่สอง