สภาวุ่น! โวย ‘ตู่’ แจงยิบแต่ไม่ตรงคำถาม นายกฯ ฮึ่ม อย่าละเมิดครอบครัว เมินถูกไล่

Home » สภาวุ่น! โวย ‘ตู่’ แจงยิบแต่ไม่ตรงคำถาม นายกฯ ฮึ่ม อย่าละเมิดครอบครัว เมินถูกไล่


สภาวุ่น! โวย ‘ตู่’ แจงยิบแต่ไม่ตรงคำถาม นายกฯ ฮึ่ม อย่าละเมิดครอบครัว เมินถูกไล่

นายกฯ แจงยิบ ฮึ่มอย่าละเมิดครอบครัว เมินฝ่ายค้านไล่ ยันขึ้นอยู่กับมติ ฝ่ายค้านโวย ตอบไม่ตรงคำถาม ‘ชัยวุฒิ’ โดดป้องตอบไม่ตรงก็เป็นสิทธิ์ พร้อมแจงปมสปายแวร์

เมื่อเวลา 12.43 น. วันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงภายหลังสมาชิกอภิปรายว่า เรื่องการชุมนุม ได้ให้นโยบายมาตลอดว่า ให้ความระมัดระวังที่สุดในการบังคับใช้กฎหมาย อะไรแจ้งเตือนได้ก็ให้เตือน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนต่างๆ ที่อาจได้รับคำชี้แจงที่ทำให้เข้าใจผิดเพี้ยน ก็ได้ไปพูดคุยถึงผู้ปกครอง เพื่อไม่ต้องการให้อยู่ท่ามกลางอันตราย และถูกดำเนินคดี ส่วนการดำเนินคดี เป็นเรื่องของศาลกระบวนการยุติธรรม ตนไม่เคยใช้อำนาจก้าวล่วงอำนาจศาล

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชน พยายามให้อย่างเต็มที่ และคิดว่าให้เกิน 100% ตอนนี้มีกฎหมายหลายฉบับ ตนพยายามผ่อนหนักผ่อนเบา แต่ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมการเคลื่อนไหวพวกนี้ถึงเกิดขึ้นในช่วงนี้ และมีพรรคการเมืองบางพรรคเข้ามาอยู่ตรงนี้ เป็นเรื่องอันตรายที่สุด และคิดว่าคนไทยทั้งประเทศคงมองออก ไม่ว่าจะไปพูดจาในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อทำลายล้างระบบ เพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด คิดว่าคนไทยคงไม่ยอม ดังนั้น จะมาโทษเจ้าหน้าที่ไม่ได้เพราะท่านเป็นคนเริ่มทำ ซึ่งกฎหมายทุกฉบับ ตนไม่ได้กำหนดขึ้นมาใหม่

นายกฯ ชี้แจงถึงการป้องกันประเทศว่า ตนพูดหลายครั้งแล้ว ท่านก็พยายามรื้อฟื้นมาอีกให้ได้ ตนจะทำดีที่สุด แต่จะให้ถูกใจหมดคงไม่ได้ ตนไม่ได้ทำงานคนเดียว ไม่ว่าอย่างไร เขาเป็นเพื่อนบ้าน เรื่องกิจการภายในเป็นเรื่องของเขา เรื่องการต่อสู้ก็เรื่องของเขา ขอให้ระวังการพูดจาต่างๆ ด้วย ภาพที่ปรากฎก็จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ต้องเข้าใจว่าเรามีชายแดนติดกัน ไม่มีอะไรชัดเจน นอกจากแนวที่ยึดไว้ตามธรรมชาติ เวลามีการปะทะ เราก็เตือนไปหลายครั้ง ก็ได้รับการปฏิบัติ หากยังฝ่าฝืนก็ใช้อาวุธจริงออกไป แต่ต้องดำเนินการระมัดระวังที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงถึงกรณีที่มีสมาชิกนำภาพมาเปรียบเทียบว่าเวลาไปต่างประเทศแล้วไม่ได้รับการต้อนรับว่า ภาพที่เห็นเป็นภาพที่นำมาประกอบกันทั้งสิ้น ตนว่าไม่ใช่แบบนั้น ไม่ต้องมาเถียงตน ไปขอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ ตนไม่อยากเอาภาพมาโฆษณาตัวเอง ถ้าท่านไม่เคยเป็น ไม่เคยไป ไม่เคยอยู่ ท่านอย่ามาว่าตน เอาไว้ให้ท่านได้เป็นก่อน แล้วท่านค่อยทำให้ดีที่สุดก้แล้วกัน

“ถ้าอะไรทำให้เกิดความเสียหาย จำเป็นต้องรักษาสิทธิส่วนบุคคล ผมไม่ได้ขู่ แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ผมพยายามอดทนอย่างเต็มที่ ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ท่านทำอะไรไว้ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เหมือนผมทำอะไรผมก็รับผิดชอบ ผมพูดกับท่านตอบกลับและฟังท่านโดยที่ไม่ได้ไปอะไรกับท่านเลย ไม่เคยหยาบคายกับท่านสักคำ และไม่เคยมีกริยาที่ก้าวล่วงกันเลย” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสปายแวร์หรือระบบเพกาซัสนั้น ยืนยันไม่รู้จัก และไม่จำเป็นต้องมาตามเรื่องแบบนี้ เปิดดูในโซเชียลก็เห็นอยู่แล้วว่า ใครเป็นคนทำ มาจากไหน ใครใช้งบประมาณเท่าไร มีคณะทำงานอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าเราเรียนรู้กับโซเชียลกันแบบนี้ ประเทศชาติก็เป็นแบบนี้ จริงบ้างเท็จบ้าง และตนไม่ให้ค่าคนเหล่านี้ คนที่อยู่เบื้องหลัง แต่คนที่ไม่รู้เรื่องตนเห็นใจคนที่แพร่ต่ออาจไม่เข้าใจ แต่คนต้นเรื่องเป็นเรื่องของกฎหมายว่ากันไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างตนไม่แก้ตัว และมีเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่ต้องพูดให้เกิดประโยชน์ในสภาแห่งนี้และในประเทศชาติในเวลานี้ มากกว่าเรื่องที่ตีกันไปตีกันมา ขอให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กันดีกว่าโต้เถียงโต้แย้งกันแบบนี้ วันนี้ไม่ใช่เวลาที่เรามาทะเลาะกัน ตนไม่ต้องการทะเลาะกับใคร แม้จะไล่ตนยังไง ก็ขึ้นอยู่กับมติ ขึ้นอยู่กับประชาชนและรัฐธรรมนูญ ตนไม่ใช่คนเขียนรัฐธรรมนูญ ตนสั่งใครไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นการที่เอาคนนั้นมาอ้างคนนี้มาพูดเอาหนังสือพิมพ์มาอ่าน ตนรับไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลที่ต้องตรวจสอบ”

“หลายครั้งที่ผมเตือนไปแล้วว่า อย่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผม ตัวผม ครอบครัวผม และผมไม่อยากจะกล่าวย้อนไป คนที่ทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ และถ้าพูดถึงเงินไม่พอ เงินไม่มี เป็นหนี้เป็นสิน ทำไมไม่เติมเงินตรงนี้ เก็บเงินจากคนที่ไปใช้ประโยชน์ ที่ใช้หนี้ให้อยู่นี่ ที่เป็นหนี้อยู่กี่แสน และที่ยังไม่ได้นับอีกหลายคดี เอามารวมสิครับผมจะให้กยศ.เต็มเม็ดไปเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯ ชี้แจงเสร็จ เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อฝ่ายค้านต่างลุกขึ้นประท้วงนายกฯ เพราะตอบไม่ตรงคำถาม และมีการกล่าวพาดพิง อาทิ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล

ต่อมานายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอีเอส) ชี้แจงประเด็นว่า ตนยอมรับใช้สปายแวร์ หรือระบบเพกาซัส ในการเจาะข้อมูลมือถือประชาชน ซึ่งตนเห็นข้อมูลในโซเชียลที่มีการนำไปปั่นกัน จึงได้ย้อนคลิปชี้แจงในสภาฯ ที่ตนพูดไปนั้น ก็ระบุว่า ตนไม่ได้พูดว่ามี แต่พูดว่ากำลังศึกษาระบบนี้ และรู้ว่ามีระบบนี้ อยู่ที่ใช้ในระบบความมั่งคงและเรื่องยาเสพติด แต่ไม่บอกว่ามีในเมืองไทยหรือระบบราชการ

ยืนยันว่ากระทรวงดีอีเอสไม่ได้ทำ เพราะไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่คนบางกลุ่มบิดเบือนว่ากล่าวหาว่าตนยอมรับว่ามี อย่าไปบิดเบือนให้มันเกิดความสับสนเลย ไปพูดเรื่องที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ดีกว่า

“ผมฟังการประชุมมาหลายครั้ง นายกฯไม่ได้พาดพิงถึงทั้งสองคนนี้ที่พูดไปเลย นายยุทธพงศ์ บอกว่าขอถามหน่อยทำไมไม่ตอบเรื่องนี้ นายกฯไม่ได้ตอบหรือที่เขาอยากฟัง หรือตอบไม่ตรงใจ ก็เป็นสิทธิของนายกฯ แบบนี้นายกฯก็เสียหาย” นายชัยวุฒิ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ