กระทรวงสาธารณสุข รับทราบข้อเสนอของสมาคมผู้ประกอบการภัตตาคารไทยและอีก 8 สมาคม ขอให้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้อย่างยั่งยืน มอบกรมควบคุมโรคและกรมอนามัยจัดทำแนวทางดำเนินการภายใต้ความปลอดภัยของประชาชน เสนอ ศบค. พิจารณาศุกร์นี้
วานนี้ (24 ส.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังผู้แทนสมาคมภัตตาคารไทยและอีก 8 สมาคม ประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมคลินิกเอกชน สมาคมผู้ประกอบการสปาไทย กลุ่มสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมสนามกอล์ฟไทย สมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นข้อเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาผ่อนคลายมาตรการสำหรับร้านอาหารให้เปิดบริการได้ หลังสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบข้อเสนอ มอบให้กรมควบคุมโรคและกรมอนามัยจัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ โดยหลักการจะต้องมีการดำเนินการเพื่อความปลอดภัย 3 ส่วน ได้แก่
1.) การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมไม่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี
2.) พนักงานต้องปลอดโรค โดยการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือหากไม่ได้หรือยังได้ไม่ครบ 2 เข็ม ต้องตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองในการให้บริการลูกค้า และ
3.) ลูกค้าต้องปลอดโรค อาทิ แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน, ผู้ที่เคยติดเชื้อต้องหายแล้ว 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน, มีผลตรวจ ATK รับรองว่าไม่ติดเชื้อ หรือมีการตรวจก่อนเข้าใช้บริการ
จากการพูดคุยกับตัวแทน ทั้งสมาคมภัตตาคารไทยและตัวแทนร้านอาหาร ยินดีให้ความร่วมมือ และส่วนหนึ่งก็ได้ดำเนินการเข้มในมาตรการป้องกันโควิดเป็นอย่างดี ทั้งภายในร้านอาหาร พนักงาน คนปรุงอาหาร และตามมาตรการที่ทางภาครัฐกำหนด เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้อย่างยั่งยืนและผู้รับบริการมีความปลอดภัย
โดยระยะแรกจะเน้นในร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ และห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย โดยจะนำรายละเอียดหลักการเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564
ทั้งนี้ นางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการสมาคมศูนย์การค้าไทย เปิดเผยข้อเสนอของกลุ่ม 9 สมาคมธุรกิจ ว่า แนวทางการขอเปิดธุรกิจที่สมาคมศูนย์การค้าไทยเสนอมาแบ่งเป็น 3 ระยะคือ
ระยะที่ 1 เริ่มวันที่ 1 ก.ย.
เปิดธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มให้สามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้ 50% เปิดธุรกิจก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน คลินิกทันตกรรม ร้านนวด สปาเฉพาะนวดเท้า คลินิกเวชกรรม ธุรกิจเสริมสวย งดเว้นบริเวณใบหน้า ธุรกิจไอทีอุปกรณ์สื่อสารและไฟฟ้า อาคารสำนักงาน ธุรกิจบริการ เช่น ล้างรถ ซ่อมกุญแจ ไปรษณีย์ เบ็ดเตล็ด เช่น ร้านตัดแว่น สนามกอล์ฟและกีฬากลางแจ้ง
ระยะที่ 2 เริ่มวันที่ 15 ก.ย.
เปิดธุรกิจร้านอาหารแบบนั่งรับประทานที่ร้านได้ 75% ธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และธุรกิจสถาบันการศึกษา
ระยะที่ 3 เริ่มวันที่ 30 ก.ย. หรืออาจจะเร็วกว่ากำหนดก็ได้
ธุรกิจร้านอาหารแบบนั่งรับประทานได้เต็ม 100% ธุรกิจประกอบการสุขภาพและสปา เครื่องเล่นเด็กและผู้ใหญ่ ธุรกิจฟิตเนสและออกกำลำลังกายในร่ม ธุรกิจโรงภาพยนตร์และห้องจัดเลี้ยง
อย่างไรก็ตาม ศูนย์การค้าทุกแห่งประสงค์จะปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขโดยเคร่งครัดและถือเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้ศูนย์การค้า สนามกอล์ฟ สนามกีฬากลางแจ้ง สามารถเปิดบริการได้ตามปกติ