สาธิต เผย กมธ.กฎหมายลูกเพิ่มเวลาประชุม เร่งให้เสร็จทันก่อนเปิดประชุมสภา ลั่นตัวเครื่องมือต้องพร้อม สกัดเดดล็อก มั่นใจหากฝ่ายค้านยื่นซักฟอกไม่ทำกม.ลูกสะดุด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 เม.ย.2565 ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ที่ประชุมจะขยายช่วงเวลาการประชุม เพื่อชดเชยวันหยุดช่วงสงกรานต์ เพราะเป็นข้อตกลงของกมธ.ว่าจะทำกฎหมายให้เสร็จก่อนเปิดประชุมสภาสมัยสามัญช่วงเดือนพ.ค. จึงนัดประชุมทดแทน ทั้งนี้ หลายคนไม่อยากเพิ่มวันประชุม จึงมีมติให้ประชุมวันเดิมคือ วันพุธและวันพฤหัสบดี แต่ขยายเวลาการประชุมแทน จากเดิมเวลา 09.30-13.30 น. เป็น 09.30-16.30 น. โดยจะดูเนื้อหาถ้าพิจารณาไปได้เร็ว สัปดาห์หน้าอาจจะกลับไปประชุมในช่วงเวลาเดิม

นายสาธิต กล่าวว่า ในส่วนของกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มี 2 ประเด็นที่ต้องถกเถียงกัน ถ้า 2 ประเด็นนี้จบได้ง่าย คิดว่าน่าจะเสร็จทัน แต่ถ้ามีการอภิปรายหรือมีความเห็นแตกต่างก็ต้องเพิ่มเวลา แต่จะยังไม่เพิ่มวัน โดยมีเป้าหมายให้เสร็จทันวันที่ 22 พ.ค.

เมื่อถามว่าประเด็นไพรมารีโหวตจำเป็นต้องเพิ่มเวลาหรือไม่ เพราะต่างฝ่ายยังเห็นต่าง นายสาธิต กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่งในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีบางฝ่ายเสนอให้ยกเลิก ขณะที่บางคนคิดว่ายังจำเป็นต้องคงไว้ เนื่องจากต้องล้อไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ตนคิดว่าเราเขียนกฎหมายแล้วต้องทำให้ได้จริง ไม่เช่นนั้นจะสร้างปัญหาเพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามว่าในการพิจารณาของกมธ.ตอนนี้ ท่าทีของส.ว.เป็นอย่างไรบ้างที่จะนำไปสู่การลงมติวาระ 2-3 นายสาธิต กล่าวว่า เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งแต่ละคนมีความคิดเห็นพูดกันตรงไปตรงมา แต่สุดท้ายการลงมติก็เป็นไปตามเสียงส่วนใหญ่ จะเห็นว่าฝั่งส.ว.มีความเป็นเอกภาพในการลงมติในทิศทางเดียวกัน แต่พรรคการเมืองอาจมีความเห็นที่แตกต่าง หวังว่ากมธ.จะลงมติในเชิงความเห็นส่วนตัวเป็นหลัก และรับฟังความคิดเห็น พร้อมลงมติในส่วนที่น่าจะเป็นทิศทางในการพัฒนาประชาธิปไตยโดยใช้การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม มีกติกาที่ออกแบบได้สมบูรณ์และทำได้จริงที่สุด

เมื่อถามว่ามีส.ว.บางคนประเมินว่าทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภา ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำให้การพิจารณากฎหมายลูกสะดุดหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า คิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้เสร็จภายใน 180 วัน เราตั้งเป้าให้เสร็จเร็วเพื่อให้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือสำคัญ ไม่เกิดเดดล็อก เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วและมาออกกฎหมายลูกเพื่อปฏิบัติได้จริงในกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

ฉะนั้น เราจำเป็นต้องออกกฎหมายลูกให้ทัน สมมติว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในเสียงในสภา กฎหมายนี้จะเป็นสิ่งสำคัญนำไปใช้เลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งเป็นหนึ่งในทางออกของการใช้อำนาจของนายกฯ ดังนั้น ตัวเครื่องมือจะต้องพร้อม เพื่อรองรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าเครื่องมือไม่พร้อมและเกิดสถานการณ์ที่เป็นอุบัติเหตุ จะทำให้เกิดเดดล็อกที่ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ หากต้องไปออกพ.ร.ก.ก็อาจนำไปสู่การไม่ยอมรับของคนทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าประเมินแล้วจะไม่ถึงขั้นเดดล็อกใช่หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ แต่เข้าใจว่ารัฐบาลก็คงจะบริหารจัดการเสียงได้ตามที่เดินหน้ามา