เมียนมาจำคุก’โรฮิงยา-วันที่ 10 ม.ค.เอเอฟพีรายงานว่า ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกชาวโรฮิงยา 112 คนรวมถึงเด็กหลายคนระยะเวลา 2-5 ปี เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ในความผิดฐานพยายามเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียโดยไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย หลังชาวโรฮิงยากลุ่มนี้ถูกจับมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาในภูมิภาคอิรวดี ทางใต้ของประเทศ

ตำรวจจับตาผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา หลังจากนั่งเรือมาถึงหาดในจังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 8 ม.ค. (เอเอฟพี)

โกลบอลนิวไลต์ ออฟ เมียนมา สื่อทางการเมียนมาระบุว่า เด็กถูกย้ายไปยังโรงเรียนฝึกอบรมสำหรับเด็กใกล้นครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมและในรายงานข่าวเรียกชาวโรฮิงยาว่า ชาวเบงกาลี ซึ่งเป็นคำหยาบคายที่ใช้เรียกชาวมุสลิมโรฮิงยา ซึ่งถูกทางการเมียนมา ชาติที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธปฏิเสธไม่ให้สถานะพลเมืองและบ่อยครั้งต้องขออนุญาตก่อนเดินทาง

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยานั่งรวมกลุ่มกันหลังจากนั่งเรือมาถึงหาดในจังหวัดอาเจะห์ เมื่อ 8 ม.ค. (เอเอฟพี)

ทั้งนี้ ในปี 2560 ชาวโรฮิงยาหลายแสนคนหนีการปราบปรามของทหารเมียนมาไปยังประเทศบังกลาเทศ ขณะที่เมียนมากำลังเผชิญข้อกล่าวหาฆ่าล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงยาที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศของสหประชาชาติ และในแต่ละปีชาวโรฮิงยาหลายพันคนเสี่ยงชีวิตเดินทางจากค่ายในบังกลาเทศและเมียนมาไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซีย ชาติที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

และเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2566 เรือไม้บรรทุกผู้ลี้ภัยโรฮิงยาเกือบ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงขึ้นฝั่งที่อินโดนีเซีย นับเป็นระลอกที่ 5 นับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์เชื่อว่า ชาวโรฮิงยากว่า 2,000 คนพยายามเสี่ยงอันตรายนั่งเรือลี้ภัยในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 6 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2564

…………