เว็บไซต์ The Korean Herald ได้รายงานว่า ศาลกรุงโซลได้มีคำตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยืนยันให้ Netflix ต้องชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่าย
Netflix ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิงรายใหญ่ ทำรายได้ในเกาหลีใต้ไปกว่า 415,500 ล้านวอน หรือประมาณ 11,800 ล้านบาท อีกทั้งยังครองปริมาณการใช้เครือข่ายทั้งหมดของเกาหลีใต้ไป 4.8% เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ที่ผ่านมา และมิได้จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายให้แก่ SK Broadband ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย และเป็นบริษัทย่อยของ SK Telecom ผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ แต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน Naver ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแชทที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง Line ที่ครองปริมาณการใช้เครือข่ายไป 1.8% ต้องชำระค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายไปประมาณ 70,000 ล้านวอน หรือประมาณ 1,980 ล้านบาท ส่วน Kakao ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มแชทที่ได้รับความนิยม ก็จ่ายค่าธรรมเนียมไป 30,000 ล้านวอน หรือประมาณ 850 ล้านบาท
นั่นทำให้มีการคาดการณ์ว่า Netflix จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 รายของเกาหลีใต้ รวมกันมากกว่า 100,000 ล้านวอน หรือประมาณ 2,830 ล้านบาท
SK ได้ยื่นร้องเรียนต่อททาง สำนักงานคณะกรรมการการสื่อสารแห่งเกาหลี (Korea Communications Commission) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 และทาง Netflix ก็ได้ยื่นฟ้อง SK ในอีกไม่กี่เดือนถัดมา เพื่อให้ศาลพิจารณาว่าทางบริษัทมีภาระผูกพันในการชำระค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายหรือไม่
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา ศาลได้ตัดสินว่าคำฟ้องร้องของ Netflix ตกไป โดยระบุว่า การทำสัญญาและการกำหนดค่าบริการ เป็นสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องเจรนาเพื่อค่าข้อสรุป”
ศาลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “Netflix ได้รับการบริการด้านเครือข่าย รวมถึงการจัดการคุณภาพของเครือข่ายเป็นอย่างน้อย จึงมีเหตุผลที่ Netflix จะมีภาระผูกพันในการชำระค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายให้แก่ SK Broadband”
คำตัดสินในครั้งนี้อาจเป็นการวางมาตรฐานให้ผู้ให้บริการสตรีมมิงชื่อดังรายอื่น ๆ อย่าง Disney+ หรือ HBO Max หรือแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลรายใหญ่อย่าง Facebook และ Google ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธิ์การดำเนินธุรกิจในประเทศเกาหลีใต้ตามไปด้วย
