วันที่ 11 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ศาลสูงสุดของสเปน พิพากษาเมื่อวันอังคาร 8 ก.พ. ต้องรื้อถอน ลักชัวรี มารีนา อิซลา โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มี รีสอร์ตกอล์ฟ โรงแรม 4 ดาว บ้านพักวิลลา 185 หลัง และหาดทรายเทียม หลังก่อสร้างในพื้นที่คุ้มครองธรรมชาติ ปิดฉากการต่อสู้ทางกฎหมาย 14 ปี

โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวก่อสร้างบนเกาะลา อิสลา เด บัลเดกาญัส (La Isla de Valdecañas) ซึ่งอยู่ในอ่างเก็บน้ำในแคว้นเอซเตรมาดูรา ทางตะวันตกของสเปน ด้วยวิลลามากกว่า 100 หลัง และจะพิ่มโรงแรมแห่งที่สองเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวด้วย

เว็บไซต์ ลักชัวรี มารีนา อิสลา เด บัลเดกาญัส ระบุข้อมูลว่า โครงการพัฒนาสุดหรูเริ่มก่อสร้างในปี 2550 อยู่ห่างจากกรุงมาดริดไปทางตะวันตกราว 100 ไมล์ (161 กิโลเมตร) และมีหาดทรายละเอียดใกล้สุดกับเมืองหลวงของสเปน

การต่อสู้ทางกฎหมายดำเนินการ 14 ปี ที่ดำเนินการโดยกลุ่มรณรงค์นิเวศวิทยาที่มีชื่อ เอโกโลจิสตัส เอ อักซิออน (Ecologistas en Acción) ซึ่งระบุว่า โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวก่อสร้างในพื้นที่คุ้มครองที่ควรกลับสู่กลับสู่สภาพธรรมชาติ

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ค. 2563 ศาลในแคว้นเอซเตรมาดูราพิพากษาว่า โรงแรม และคฤหาสน์ และสนามกอล์ฟ ซึ่งเปิดไปแล้ว ควรอยู่ต่อไปได้เนื่องจากไม่ก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และประเมินค่าใช้จ่ายในการทำลายโครงการพัฒนาทั้งหมดเป็นเกือบ 34 ล้านยูโร (1,265 ล้านบาท) และค่าชดเชยแก่เจ้าของโครงการสูงถึง 111 ล้านยูโร (4,133 ล้านบาท)

ศาลจึงไม่มีคำพิพากษารื้อถอนด้วยเหตุผลมางเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลแคว้นเอซเตรมาดูราจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และว่าควรทำลายแค่สถานที่ต่างๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง กระทั่งคำพิพากษาของศาลสูงสุดเมื่อวันอังคารที่ 8 ก.พ. ที่แก้ไขเป็นสั่งรื้อถอน

เอโกโลจิสตัส เอ อักซิออน เฉลิมฉลองคำพิพากษาล่าสุด ซึ่งกล่าวว่า เป็นการหลีกเลี่ยงการสร้างบรรดทัดฐานอันตราย” สำหรับอาคารอื่นๆ ที่ก่อสร้างอย่างผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม กิเยร์โม เฟร์นันเดซ หัวหน้ารัฐบาลแคว้นเอซเตรมาดูรา กล่าวเมื่อวันพุธที่ 9 ก.พ. ว่าจะพยายามรักษาการโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นี้ โดยน่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญของสเปนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ช็อกล่าสัตว์มหาสนุก กวาง-หมู่ป่าตายเฉียดพันตัว นักอนุรักษ์สุดเดือดดาล