‘ศรัณย์วุฒิ’ ซัด รบ. “เจอ แจก ไม่จบ” จี้เยียวยาคนติดโควิด เศร้าเคสดิ่งตึกเครียดหนี้สิน ลั่นใช้งบประมาณไม่มากเท่ากับเอื้อเจ้าสัว
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ ส.ส.เขต 2 จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ และทีมงาน ลงพื้นที่ ต.แสนตอ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ด้วย คาราวาน “ศรัณย์ สู้โควิด เพื่อชาติ เพื่อประชาชน” จัดรถยนต์บรรทุกถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และยาฟ้าทะลายโจร มอบให้กับครอบครัวของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวที่บ้านตามนโนบาย “เจอ แจก จบ” ของรัฐบาล และประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งต้องกักตัว ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง อ.ทองแสนขัน และ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ระลอกปี 2565 หนักหนาสาหัส จ.อุตรดิตถ์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 500-600 คน จึงลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสูงต้องกักตัว ตามที่ผู้นำชุมชนได้ประสานมา ทั้งเขต 1 และ เขต 2 จ.อุตรดิตถ์ ตนในฐานะ ส.ส.ของปวงชนชาวไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ อะไรที่พอช่วยได้เร่งดำเนินงานทันที ได้นำทีมงานจัดคาราวาน มอบถุงยังชีพ ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัว
ขณะนี้ทีมงานพรรคเพื่อชาติ ได้ลงพื้นที่ อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด อ.ทองแสนขัน อ.พิชัย และ อ.เมือง หากหมู่บ้าน ตำบลไหน ต้องการความช่วยเหลือ สามารถประสานมายัง ศูนย์ประสานพรรคเพื่อชาติอุตรดิตถ์ ได้
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องรักษาตัวที่บ้านตามนโยบาย “เจอ แจก จบ” จริงๆหากได้ลงพื้นที่จะพบว่า “ไม่จบ” การรักษาตัวและกักตัวที่บ้าน ประชาชนยังต้องกินต้องใช้ ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ จะกินจะใช้อย่างไร บางครอบครัวมีหนี้สิน ควรคำนึงถึงเรื่องปากท้อง
“สะเทือนใจ เสียใจเป็นที่สุด ที่ทราบว่าประชาชน อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวติดโควิด-19 พร้อมลูกอีก 2 คน เกิดภาวะความเครียดจากหนี้สิน กระโดดตึก 3 ชั้นโรงพยาบาลสนามเสียชีวิต มันแสดงถึงความล้มเหลวซ้ำซากของรัฐบาล สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจภาคประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส”
“ทำไมรัฐบาลไม่ช่วยประชาชน แก้ไขปัญหาหนี้สิน หรือเยียวยา ช่วงรักษาตัว-กักตัว คนละ 3,000-5,000 บาท ผมจะสาธุเลย ซึ่งใช้งบประมาณไม่มากเท่ากับเอื้อเจ้าสัว การดูแลรักษาประชาชนต้องทำในเชิงรุก เรื่องยา ตรวจเจอแล้วแจกทันที ไม่ใช่รอหลายวัน”
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวอีกว่า เรื่องหนี้สิน ควรมีการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งแผ่นดิน หากไม่แก้หนี้สิน รัฐบาลอย่าหวังจะฟื้นเศรษฐกิจ ไม่มีทาง ต้องลดเงินต้น หยุดดอกเบี้ย หยุดหนี้ อย่างน้อย 3 ปี เศรษฐกิจดีขึ้นค่อยมาว่ากัน หยุดฟ้อง หยุดยึดทรัพย์ ประชาชนจะได้ลืมตาอ้าปากได้ ฝากไปถึงรัฐบาลถ้าไม่ทำ ตนจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด
“การลงทุนโครงการใหญ่ๆ ที่ไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์หยุดหรือชะลอได้ควรทำ เช่น โครงการใหญ่อย่าง อีอีซี ใช้เงินมหาศาล เงินของแผ่นดินเหลือน้อยลงทุกที ยังปล่อยให้มีการจ่ายค่าโง่ ซึ่งผมอภิปรายในสภาครั้งที่ผ่านมา จะงาบอีก 17,000 ล้านบาท ผมรับไม่ได้”
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวต่อว่า เรือดำน้ำซื้อมาแล้วไม่มีเครื่องยนต์รัฐบาลจะว่าอย่างไร ถ้าคุณประยุทธ์ ไม่ได้เป็นนายกฯ นายกฯ คนต่อไปต้องไม่ใช่คุณประวิตร วงศ์สุวรรณ ตนรับไม่ได้ คนไทยทั้งแผ่นดินเขาไม่ยอม เขาอยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เผด็จการตัวเก่าไป เผด็จการตัวใหม่มาอีก มันซ้ำซาก
“อยากให้แผ่นดินนี้ดีขึ้น ให้ประชาชนหลุดพ้นจากเผด็จการ อยากให้บ้านเมืองสู่ประชาธิปไตย ปรับโครงสร้าง การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งต่อไป หากสถานการณ์ยังแย่ หากรัฐบาลไม่ทำอะไร เจอศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ คนนี้แน่นอน” นายศรัณย์วุฒิ กล่าว