อังกฤษ ยุคใหม่มีอาวุธเข้าทำอันหลากหลาย จากที่ทำท่าจะเจอเกมอึดอัด แต่ก็ปลดล็อกสำเร็จ ก่อนจะรัวยิงอิหร่านดิ้นด้วยฟอร์มเหนือชั้นเกมฟุตบอลโลก 2022
เริ่มเกมเป็นฝั่ง อังกฤษ ที่ครองบอลได้มากกว่า ส่วนอิหร่านก็ถอยลงไปตั้งรับรอสวนกลับตามคาด ช่วงต้นมีจังหวะที่เกมหยุดชะงักกันหลายครั้ง รวมถึงตอนที่อิหร่านต้องเสียผู้รักษาประตูอย่าง อลิเรซา บีรานวานด์ ซึ่งบาดเจ็บถูกเปลี่ยนออกจากสนาม
อังกฤษนั้นพยายามหาช่องเจาะ แต่เกมรับอิหร่านก็ยืนตำแหน่งกันได้อย่างมีวินัย แถมยังฉลาดในการทำฟาวล์ เพราะแต่ละครั้งไม่ได้ทำอะไรรุนแรง แต่หยุดจังหวะเดินเกมของอังกฤษได้ผลดีมาก
อย่างไรก็ตาม อังกฤษก็ยังมีลูกกลางอากาศเป็นทีเด็ด เริ่มส่งสัญญาณเตือนด้วยการที่ แฮร์รี แม็กไกวร์ โขกไปชนคาน หลังจากนั้นไม่นาน จูด เบลลิงแฮม ก็ได้โขกบ้าง คราวนี้เบิกร่องประตูแรกสำเร็จ
ต่อมาอังกฤษก็ได้ลูกกลางอากาศแผลงฤทธิ์อีกหนจนสกอร์กลายเป็น 2-0 หลังจากนั้นอิหร่านต้องเปลี่ยนมาบุกมากขึ้นทำให้หลังบ้านเปิด อังกฤษจึงสบโอกาสบุกทางภาคพื้นดินและบวกเพิ่มอีกหลายตุง สุดท้ายชนะขาดลอย 6-2 ดังที่เห็นกัน
ที่จริงแล้วอังกฤษก็ยังมีจังหวะพลาดอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่ศักยภาพนักเตะห่างชั้นกัน อิหร่านจึงทำได้อย่างมากสุดเพียงยิงคืนมา 2 ประตู ซึ่งไม่ได้มีผลอะไรมากนัก
นัดนี้นักเตะอังกฤษทุกคนถือว่าเล่นได้ดี แต่ละคนมีส่วนต่อความหลากหลายของเกม และไม่มีใครที่ทำพลาดน่าเกลียดจนต้องตำหนิเป็นพิเศษ
แต่คนที่ต้องให้เครดิตที่สุดเห็นจะเป็นกุนซืออย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้ไม่เคยเสียความเชื่อมั่นในทีมที่สร้างขึ้นมา ไม่ว่านักเตะคนไหนจะถูกวิจารณ์หนักอย่างไรก็ตาม ตัวอย่างเช่น แฮร์รี แม็กไกวร์ และราฮีม สเตอร์ลิง ซึ่งวันนี้ทำผลงานน่าประทับใจทั้งคู่
นอกจากนี้ เซาธ์เกตยังเป็นผู้ปั้นอังกฤษยุคสมัยใหม่นี้ขึ้นมา การโจมตีกลางอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ก็ยังคงอยู่ แถมยังเพิ่มการเข้าทำภาคพื้นดินที่หวือหวาเข้ามาอีก เรียกได้ว่ามีอาวุธสำหรับทุกสถานการณ์
บางทีอังกฤษชุดนี้อาจหวังถึงแชมป์โลกได้เลย เพียงแต่ต้องตอบโจทย์เรื่องรักษามาตรฐานการเล่นให้สม่ำเสมอแบบนี้ไปตลอดเท่านั้น