ชะตากรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทบโดยตรงต่อพรรคการเมืองที่มีความสัมพันธ์
อย่าคิดว่าจะมีแต่พรรคพลังประชารัฐซึ่งเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เท่านั้น
ทุกพรรคการเมืองที่ “ขานชื่อ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้วนถูกจับตา
ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เว้นแม้กระทั่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินหน้าหรือหยุดอยู่กับที่
มีคนจำนวนไม่น้อยประเมินว่าหาก “เดินหน้า” อนาคตทางการเมืองจะต้องฉลุย
จะตอบคำถามนี้ได้จำเป็นต้องทำความเข้าใจต่อ “ชนัก” ซึ่งปักกลางหลังของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นอย่างไรและมาอย่างไร
มิใช่สัมพันธ์กับ “กฎหมาย” หากสัมพันธ์ในทาง “จริยธรรม”
หากมองอย่างบ้านๆ ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 เมื่อถึงเดือนสิงหาคม 2565 ย่อมเท่ากับ 8 ปี
ตรงนี้แหละ “คำวินิจฉัย” ของศาลรัฐธรรมนูญ จึงละเอียดอ่อน
ความละเอียดอ่อนนี่แหละจะส่งผลกระทบในทาง “การเมือง” โดยตรง
เหมือนกับจะโดยตรงในที่นี้จะหมายถึงตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ในเมื่อตำแหน่งที่ดำรงอยู่คือตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี”
จึงย่อมสัมพันธ์และมีผลสะเทือนไปโดยรอบ
โดยตรงอีกหนึ่งย่อมเป็นพรรคพลังประชารัฐ โดยตรงอีกหนึ่งย่อมเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติที่ถือเป็นเหมือนกระดานหกใหม่ในทางการเมือง
จะเดินหน้า หรือจะถอยหลังอย่างไรจึงจะเป็น “คุณ”
สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงอยู่เหมือนกับเป็น “ไม้ใหญ่” ทางการเมือง
ลำพังทำรัฐประหารก็เป็นเรื่องอึกทึกครึกโครมอยู่แล้ว นี่ยังครองอำนาจอย่างต่อเนื่องยาวนานอยู่ถึง 8 ปี แต่ละการขับเคลื่อนย่อมมีผลสะเทือน
สะเทือนทั้งด้าน “บวก” สะเทือนทั้งด้าน “ลบ”