จังหวะก้าวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับความสนใจอย่างสูงทางการเมือง
ปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะว่ามีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ติดตรึงอยู่กับทุกการเคลื่อนไหวอันมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ
โดยเฉพาะบทบาท นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
แม้จากความคร่ำหวอดทางการเมือง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะเคยกำหนดจังหวะก้าวเหมือนกับไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่นับวันระยะ “ห่าง” นั้นมีความใกล้ชิดเด่นชัด
ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลับ ลวง พราง อย่างไร แต่ “ร่องรอย” ก็ยังปรากฏ
เป็นการลับ ลวง พราง ทั้งในด้านความสัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐ และโดยเฉพาะกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กระนั้น หากมองเพียง 2 จุดก็จะอ่านออก
จุดหนึ่ง คือบทบาทของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในห้วงที่เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี อีกจุดหนึ่ง คือบทบาทของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ผ่านบทบาท “ที่ปรึกษา”
ทุกอย่างล้วนมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พลันที่ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ทุกอย่างก็ชัดเจน
เส้นทางในทางการเมืองของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็เช่นเดียวกับเส้นทางการเมืองของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เมื่อเดินเข้าทำเนียบรัฐบาล
“ร่องรอย” เช่นนี้มิได้เป็นเรื่องใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้น
เนื่องจากตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เส้นทางของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เส้นทางของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็แทบไม่แตกต่างกัน
เมื่อเดินเข้า “ทำเนียบรัฐบาล” แล้วได้ “ตำแหน่ง”
เส้นทางของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็เหมือนกับเส้นทาง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
ในปี 2561 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รับบรรณาการผ่านตำแหน่ง “ที่ปรึกษา” นายกรัฐมนตรี ในปี 2565 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็ไม่ได้แตกต่าง
นี่คือที่วางเท้าก่อนเข้าสู่พรรครวมไทยสร้างชาติ