นํ้าร้อน น้ำเย็นที่สาดเข้าใส่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ช่วง “โค้งสุดท้าย” เป็นอย่างไร
ไม่ว่าจะมาจากบรรดา “นักร้อง” ขาประจำอย่าง นายศรีสุวรรณ จรรยา อย่าง นายสนธิญา สวัสดี อย่าง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
หรือแม้กระทั่งหลายคนใน “รวมไทยสร้างชาติ” และ “พลังประชารัฐ”
โดยพื้นฐานต้องการให้เกิดความอับอาย ต้องการต่อหัวสร้างหางให้กลายเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ กระทั่งจัดระดับให้อยู่ในกลุ่ม “โอมาน”
ถามว่าสั่นไหว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้หรือไม่
หากดูจากภาพที่เห็น ณ สะพานหิน ภูเก็ต และบนเวทีปราศรัยเชียงราย ก็ “แป้ก”
ปริมาณที่เห็นอย่างมากมายจากสามย่านมิตรทาวน์ จากสะพานหิน ภูเก็ต แทบมิได้ลดทอนลงเลยตรงกันข้าม กลับคึกคักเข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นในตลาดที่ “เชียงใหม่” ไม่ว่าจะเป็นที่ “เชียงราย”
แม้จะมีความพยายามสอดแทรกบนเวที “ดีเบต” แต่ก็ประสบเข้ากับการโต้กลับของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายปดิพัทธ์ สันติธาดา อย่างงดงาม
แทนที่จะเป็น “ลบ” กลับกลายเป็น “บวก”
สถานการณ์ใส่ร้ายในทางการเมืองได้เป็นเงื่อนไขอันดีให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ทางหนึ่ง เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นว่า คะแนนและความนิยมได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นจุดเร้าและเย้ายวนในทางการเมือง
นี่คือ รูปธรรมยืนยันถึงความเด่นในทางการเมือง
ขณะเดียวกัน ทางหนึ่ง ก็เป็นโอกาสที่ทั้งพรรคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้ใช้เป็นเครื่องมือในการสำรวจ “กองแช่ง” อย่างจริงจัง
เป็นใคร มาจากไหน พรรคการเมืองใด
สภาพที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประสบก็เช่นเดียวกันกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ทุกอย่างเหมือนกับกำลังเดินไปบนเส้นทางย่อมจะมีเสียงเห่าหอนและที่มาดหมายจะไล่งับเพื่อสร้างความเสื่อมเสียและเสียหายให้
ทางออกมีแต่จะต้อง “ขวางคิ้ว” อย่าง“เย็นชา”