เหมือนกับการหวนกลับของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเป็น “รายรับ” ของพรรคเพื่อไทย
โดยพื้นฐานก็เท่ากับเป็นการบั่นทอน “กำลัง” ของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เพียงแต่เท่ากับเป็นการดึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาด้วย
พร้อมกับความมั่นใจต่อชัยชนะ “ยกจังหวัด” ที่ “ปทุมธานี”
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องกล่าวถึงความจัดเจนที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะยืนยันต่อชัยชนะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและสยายปีกไปยังภาคใต้
กระนั้น ภายใน “รายรับ” ก็มี “รายจ่าย”
สถานการณ์ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็อีหรอบเดียวกับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์
เพียงแต่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไปเสริมความแกร่งให้กับพรรคพลังประชารัฐและไปเสริมความแกร่งให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ
แสดงบทบาททลายฐานกำแพง “หมู่บ้านคนเสื้อแดง”
กระนั้น ที่ตามมาอย่างฉับพลันทันใดย่อมเป็นบทเพลง “กตัญญูทักษิณ” ดังกระหึ่มด้วยทำนองและเนื้อร้องอันตรึงตราประทับใจ
นี่คือตราอันประทับตรึงไปกับ “แรมโบ้”
ร่องรอยเก่าของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เริ่มปรากฏ
กล่าวสำหรับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีการนำคำปราศรัยระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ออกมารีรันต่อเนื่อง
เล่นงานพรรคเพื่อไทยชัดถ้อยชัดคำ
ยิ่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เพียงแต่เป็นคลิปเก่าเมื่อวิจารณ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หากแต่ยังความสำเร็จจาก “เหมืองทองอัครา” เจื้อยแจ้ว
เป็น “รายจ่าย” ภายในความคาดหวังต่อ “รายรับ”
ภายในการเคลื่อนไหวต้องยอมรับในความ “ใจถึง” ของหลายคนแห่งพรรคเพื่อไทย
เพื่อยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” กุมชัยชนะในทางการเมือง พรรคเพื่อไทยเปิดหัวใจอย่างกว้างขวาง โอ่โถงเปล่ง “เวลคัม” ออกมาชัดถ้อยชัดคำ
ตระเตรียม “ตำแหน่ง” เป็นการตอบแทนตามความปรารถนา