พัฒนาการอันเป็นรากฐานแห่งร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าประกายที่ถูกจุดอันเป็นที่มาแห่งร่างพ.ร.บ. สุราก้าวหน้า คือประสบการณ์จากการถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตเมื่อ 6 ปีก่อน

จากกรณีการทำเบียร์ของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร

เพราะกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาวิพากษ์บทบาทที่ผิดกฎหมายของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร

กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ “เท่าพิภพ” อย่างลึกซึ้ง

กระนั้น เมื่อก่อรูปขึ้นเป็นร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าโดยทีมกฎหมายพรรคอนาคตใหม่

ก็ต้องยอมรับว่า แรงบันดาลใจหนึ่งก็มาจากปฏิบัติการของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยภายหลังได้ชัยชนะเมื่อเดือนมกราคม 2544

นั่นคือ การนำเสนอ “สุราชุมชน” ขึ้นมาในทางเป็นจริง

แม้ว่าภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 กระแสของ “สุราชุมชน” จะถูกกดทับเหมือนกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

แต่ก็ลุกโชนอยู่ในความคิด “อนาคตใหม่”

ท่าทีของพรรคก้าวไกลต่อ “สุราก้าวหน้า” จึงมิได้ไร้รากฐานในทาง “ความคิด” อย่างสิ้นเชิง

เห็นได้จาก ไม่ว่าเมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปราศรัย ไม่ว่าเมื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปราศรัย ก็เท้าความไปยัง “สุราชุมชน”

นี่คือจุดประสานอนาคตใหม่ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย

และจากจุดนี้เองที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ได้ทะลุทะลวงไปจนถึงระดับ “โครงสร้าง”

ตรงนี้ถือเป็น “พัฒนาการ” อย่างมีนัยสำคัญ

เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ความคิดในเรื่อง “สุราก้าวหน้า” ผูกพันกับพรรคก้าวไกลแนบแน่น

เป็นความผูกพันอย่างยึดโยงอยู่กับรากฐานของพรรคไทยรักไทยอันต่อเนื่องและพัฒนามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยและกลายเป็นการประสานร่วมมือ

ก่อให้เกิด “พันธมิตร” ใน “แนวร่วม” อย่างทรงความหมาย