คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ปะทะ รุนแรง ภายใน ประชาธิปัตย์ 18 ธันวาคม :
การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม มากด้วยความร้อนแรงน่าระทึก
ดูเผินๆ เหมือนไม่มีความสำคัญมากนัก เพราะเป็นการประชุมเพื่อคัดสรรว่าใครจะเข้าดำรงตำแหน่งเป็น “รองหัวหน้าพรรค” กับตำแหน่ง “รองเลขาธิการพรรค”
ภายหลังการลาออกของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคอาจไม่สำคัญและส่งผลสะเทือนมากนัก แต่กล่าวสำหรับตำแหน่ง “รองหัวหน้าพรรค” นี่แหละกำลังกลายเป็น “ประเด็น”
เนื่องจากเป็นรองหัวหน้าพรรคที่จะคุมงาน “ภาคใต้”
ต้องยอมรับว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ทิศทางของพรรค
เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์เริ่มต้นขึ้นที่กรุงเทพมหานคร และวางรากฐานการเมืองอยู่ในกรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่ยุค นายควง อภัยวงศ์ จนถึงยุค นายพิชัย รัตตกุล
แต่ความโน้มเอียงระยะหลังโดยเฉพาะการผงาดขึ้นของ นายชวน หลีกภัย ทำให้ดุลกำลังทางการเมืองเอนไปทางภาคใต้อย่างเป็นด้านหลัก
กลายเป็นกระดานหกส่ง นายชวน หลีกภัย โลดทะยาน
การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 สะท้อนให้เห็น “จุดเปลี่ยน” เป็นอย่างมากทางการเมือง
ไม่เพียงแต่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคซึ่งคุมงานภาคใต้จะสอบตกเป็นครั้งแรก หากจำนวน ส.ส.ภาคใต้ก็ถูกเจาะทะลวง
เป็นการเจาะทะลวงจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย
การเลือกสรรรองหัวหน้าพรรคที่จะคุมงานภาคใต้คนใหม่จึงมีการแข่งขันอย่างแหลมคมยิ่งระหว่าง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ กับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง
นี่คือจุดแปรเปลี่ยนอย่างสำคัญสำหรับพรรคประชาธิปัตย์
ไม่ว่าในที่สุดจะเลือก นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ไม่ว่าจะเลือก นายเดชอิศม์ ขาวทอง
ภาพสะท้อนของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีความแจ่มชัด เพราะ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ เป็น ส.ส.มา 9 สมัยขณะที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เพิ่งเป็น 1 สมัย
นี่คือการปะทะระหว่าง “เก่า” กับ “ใหม่” อย่างเด่นชัด