การปรากฏขึ้นของทีเซอร์ “เด็ดหัว ทลายนั่งร้าน” จากพรรคเพื่อไทยเป็นก้าวสำคัญ
สำคัญไม่เพียงเพราะการสำแดงออกเช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นภายในกระบวนการเคลื่อนไหวทาง การเมืองของพรรคเพื่อไทยมาก่อน
จะมีก็แต่เพียงพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล
กระนั้น หากเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ จังหวะก้าวนี้ของพรรคเพื่อไทยก็ทรงความหมาย
เป็น “รูปธรรม” แห่ง “การเปลี่ยนแปลง”
ความจริงแล้วมีการเปลี่ยนแปลงจากพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย
ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 หัวหน้าพรรคอาจเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แต่เมื่อถึงกลางปี 2564 ก็เริ่มมีปรากฏการณ์ใหม่
เริ่มจากการมาของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้วนายประเสริฐ จันทรรวงทอง
จากนั้นก็ปรากฏรูปการณ์แห่ง “ครอบครัวเพื่อไทย” อันมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้า และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อำนวยการ
สร้างความคึกคัก หนักแน่น อย่างมากในกลุ่มแฟนคลับ
ด้านหนึ่ง มีการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่งมีการปรับขบวนภายในพรรค
เมื่อบทบาทเป็นยุคของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ประสานเข้ากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และบทบาทโดดเด่นของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
บรรดา “ผู้อาวุโส” ก็ค่อยๆ ถอยไปอยู่แนวที่ 2
ไม่ว่า นายเสนาะ เทียนทอง ไม่ว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ไม่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็เข้าไปอยู่ในองค์ประกอบแห่งคณะยุทธศาสตร์
การขับเคลื่อนอยู่ในมือของ “พี่อิ่ม”กับ “พี่น้ำ” โดยพลัน
จากการปล่อยหนังตัวอย่างออกมาก่อนการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
เกิดความคาดหวังเป็นอย่างสูงว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องปรับลุกส์และกระบวนท่าใหม่จากยุคยก “แผนภูมิ” นำไปสู่การทำชาร์ตผ่าน “พาวเวอร์พอยต์”
นี่คือลุกส์ใหม่ก่อนเข้าสู่สถานการณ์ “แลนด์สไลด์”