คะแนนจาก “มติชน เดลินิวส์ โพล ครั้งที่ 1” มีผลสะเทือนต่อการเมืองอย่างลึกซึ้ง
แม้ว่าหากอ่านผ่านคะแนนต่อพรรคการเมืองยังเป็นของพรรคเพื่อไทยที่ครองอันดับ 1 ร้อยละ 38.89 เหนือกว่าทุกพรรคการเมือง
แต่คะแนน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กลับเป็นอันดับ 1
ไม่เพียงเหนือกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
หากที่สำคัญยังเหนือกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
จากผู้แสดงความเห็น 84,076 ราย อาจเป็นจำนวนน้อยนิด เพียงหยิบมือเดียว
หากเทียบจำนวนประชากรประจำของเฟซบุ๊กไทยที่มี 51 ล้านแอ๊ก และจำนวนประชากรประจำทวิตเตอร์ไทยที่มี 11.25 ล้านแอ๊ก
ก็ยังมิอาจลงความเห็นว่าเป็น “เสียงส่วนใหญ่”
กระนั้น ถ้าใครที่มองไปพื้นที่ของ “โซเชี่ยล มีเดีย” อย่างเอาจริงเอาจังก็จะสัมผัสได้ในการรุกคืบของพรรค ก้าวไกลอย่างมีนัยสำคัญ
ผลสำรวจต่อการดีเบตที่เชียงใหม่ พะเยา ก็ออกมาอย่างนี้
ตัวเลขที่ออกมาจาก 1 นิด้าโพล 1 จากสวนดุสิตโพล จาก 1 ซูเปอร์โพล แตกต่างกัน
นิด้าโพล และ สวนดุสิตโพล สอดรับกัน นั่นก็คือคะแนนและความนิยมของพรรคเพื่อไทยนำโด่ง ขณะที่พรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 2
เหมือนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ขณะที่ของซูเปอร์โพลอาจเทไปทาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล อาจเทไปทาง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พรรคเพื่อไทยอาจนำโด่ง แต่พรรคก้าวไกลน่าเป็นห่วง
มองผ่านบทเรียนการเลือกตั้งในอดีตความเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยเป็นจริงแจ่มชัด
ขณะเดียวกัน มีความลังเล ไม่แน่ใจในคะแนนและความนิยมต่อพรรคก้าวไกลและต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะมิอาจประเมินได้จากความเคยชินเก่า
เป็นความรู้สึกเดียวกับเมื่อเดือนมีนาคม 2562