ความเงียบของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นความเงียบที่สามารถเข้าใจได้

เพราะมิได้เป็นความเงียบที่มี นายราเมศ รัตนะเชวง ออกมารับหน้าแทนในฐานะที่เป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

หากมี นายชวน หลีกภัย มาทำหน้าที่ “อธิบาย”

คำอธิบายจากปาก นายชวน หลีกภัย ก็เพื่อสร้างความกระจ่างใน 241 คะแนนที่ได้ รวมถึง 23 คะแนนของการงดออกเสียง

ที่สำคัญคือ รับรอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

กระนั้น 241 คะแนนไว้วางใจ และ 23 คะแนนในการงดออกเสียงก็สำคัญ

ความสำคัญอยู่ที่เป็นคะแนนแท้ๆ เน็ตเน็ต จากความเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อย่างที่ นายชวน หลีกภัย ออกมาค้ำยันการันตี

จึงต่างจาก 268 ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ขณะเดียวกัน จึงต่างจาก 264 ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพราะที่ปรากฏคือความเป็นจริงแห่งการดำรงอยู่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ความเป็นจริงนี้โยงไปยังรากฐานและความเป็นมา

ทำไมคะแนนไว้วางใจและคะแนนงดออกเสียงจึงสำคัญต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

เพราะว่าที่ไม่ไว้วางใจและงดออกเสียงนั้น 1 มีที่มาจากภายในของพรรคประชาธิปัตย์เอง และ 1 มาจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

ดังที่ปรากฏชื่อ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ จากชาติไทยพัฒนา

กลายเป็นความหงุดหงิดจากภายในพรรคประชาธิปัตย์อันสะท้อนผ่านกระบอกเสียงคือโฆษกพรรคประชาธิปัตย์อย่างตรงไปตรงมา

ถามว่าปมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำอย่างไร

จากสภาพที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประสบจึงเท่ากับเป็นเงาสะท้อนของความสัมพันธ์

ความสัมพันธ์ที่แตกร้าวอย่างชัดเจนภายในพรรคประชาธิปัตย์ ความสัมพันธ์ที่ไม่อาจประสานเป็นเนื้อเดียวจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค

แม้จะเกิดขึ้นในโค้งสุดท้าย แต่ก็คือความเป็นจริง