การประชุม “สภากรุงเทพมหานคร” ในวันที่ 6 กรกฎาคม มากด้วยความสำคัญ
เป็นความสำคัญไม่เพียงเพราะจะมีการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของกรุงเทพมหานคร
สัมพันธ์กับหลาย “โครงการ” ที่อยู่ในความสนใจ
1 ย่อมเป็นโครงการรถไฟฟ้า “สายสีเขียว” ในปมว่าด้วยการใช้หนี้ 1 ย่อมเป็นโครงการโรงงานกำจัดขยะที่ถูกตั้งข้อสังเกตในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง
โครงการเหล่านี้สัมพันธ์กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
คำถามก็คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะใช้ประโยชน์จาก “สภากรุงเทพมหานคร” อย่างไร
ในเมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงอยู่อย่างเป็น “ผู้ว่าฯ กทม.” อิสระ ไม่มีนอก ไม่มีในอยู่กับพรรคหรือกลุ่มการเมืองใด
แม้จะเคยเป็น “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
กระนั้น การที่สภากรุงเทพมหานครมี ส.ก.พรรคเพื่อไทย 20 คน การที่สภากรุงเทพมหานครมี ส.ก.พรรคก้าวไกล 14 คน
34 จาก 50 ส.ก.มีท่าทีอย่างไรต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ความแหลมคมอย่างยิ่งก็คือ การประชุมจะมีการถ่ายทอดทุกก้าวย่างต่อประชาชน
นี่ย่อมเป็นมิติใหม่ และได้รับการผลักดันผ่านความเห็นชอบจาก 20 ส.ก.พรรคเพื่อไทยประสานเข้ากับ 14 ส.ก.พรรคก้าวไกล
ทั้งเป็นสิ่งที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เองก็มีความต้องการ
แสงแห่งสปอตไลต์จึงฉายจับไปยังสภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นในการประชุม “สภากรุงเทพมหานคร” ในวันพุธที่ 6 กรกฎาคมอย่างแน่นอน
ทิศทางและมติของ “ที่ประชุม” จะดำเนินไปอย่างไร
เด่นชัดอย่างยิ่งว่าแนวทางของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ต้องการ “ความโปร่งใส”
เป็นความโปร่งใสที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แสดงออกตั้งแต่เช้าของวันที่ 23 พฤษภาคม หลังได้รับเลือกมาแล้ว
นี่คือเครื่องมือ นี่คืออาวุธ ในการเมือง “ใหม่”