วิษณุ แจงหลังยุบสภา ทุกกระทรวงปลดป้ายรมต. ร่วมงานได้แต่ห้ามโปรโมตผู้สมัคร

Home » วิษณุ แจงหลังยุบสภา ทุกกระทรวงปลดป้ายรมต. ร่วมงานได้แต่ห้ามโปรโมตผู้สมัคร


วิษณุ แจงหลังยุบสภา ทุกกระทรวงปลดป้ายรมต. ร่วมงานได้แต่ห้ามโปรโมตผู้สมัคร

วิษณุ แจกคู่มือปฏิบัติตัวหลังยุบสภา ให้ครม. ทุกกระทรวงปลดป้ายรมต. ร่วมงานในพื้นที่ได้-ควรเลี่ยงขึ้นเวที ห้ามเอ่ยเป็นผู้สมัคร ยันไม่ต้องรีบคืนรถประจำตำแหน่ง

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 21 มี.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมครม. ถึงกรณีชี้แจงข้อปฏิบัติของครม. หลังจากยุบสภา และจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นว่า ตนได้นำเรื่องดังกล่าวย้ำในที่ประชุมครม. ขณะที่มีรัฐมนตรีหลายคน สอบถามรายละเอียดในบางข้อ ซึ่งมีบางเรื่อง ชี้แจงได้ บางเรื่องตนไม่สามารถชี้แจงได้ แต่ได้รับเพื่อสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกครั้ง

สิ่งที่รัฐมนตรีหลายคนสอบถามกรณีห่วงว่าเวลาไปร่วมงานพิธีบางงาน อาทิ งานแต่งงาน รัฐมนตรีหรือข้าราชการการเมืองที่ลงสมัครส.ส.ได้รับเชิญขึ้นบนเวที ซึ่งตนแนะนำว่าไปร่วมงานได้ แต่อย่าขึ้นเวที หรือถ้าต้องขึ้นกล่าวบนเวที ก็ทำได้ แต่อย่าพูดว่าลงสมัครส.ส. หรืออย่าพูดว่าอยู่พรรคไหน มีนโยบายอะไร และอย่าพูดแขวะพรรคอื่น รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการและต้องพบปะประชาชน มีการมากอด หอมแก้มและมอบดอกไม้ ซึ่งตนแจ้งให้ครม. ทราบว่า กกต. ระบุว่ารับดอกไม้ได้ แต่อย่าไปพูดตอบอะไรทั้งสิ้น ต้องตรวจราชการให้เสร็จสิ้นก่อน ค่อยไปพูดคุยกับประชาชนทีหลัง

เมื่อถามว่าหลังยุบสภาแล้ว จำเป็นต้องปลดป้ายของหน่วยงานราชการที่มีรูปรัฐมนตรี พร้อมระบุชื่อตำแหน่งออกไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในคู่มือระบุให้ทุกกระทรวง และหน่วยงานราชการต่างๆ ปลดป้ายลักษณะดังกล่าวออกให้หมด ตนได้อธิบายว่า กกต.ได้ชี้แจงเรื่องป้ายหาเสียงว่า ติดชื่อและรูปผู้สมัครคู่กับหัวหน้าพรรคได้ หรือรูปผู้สมัครคู่กับแคนดิเดตนายกฯในนามพรรคนั้นได้ หรือรูปคู่กันระหว่างผู้สมัครและสมาชิกพรรค แต่ห้ามเป็นรูปที่ผู้สมัครติดกับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้ง หรือไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคนั้น

นอกจากนี้ กรณีเป็นรูปผู้สมัครอยู่คู่กับบุคคลอื่นๆ ไม่ควรระบุตำแหน่งข้าราชการการเมือง หรือข้าราชการประจำของบุคคลนั้นลงไป โดยรวมแล้วถือว่า อย่าติดป้ายที่ทำให้เห็นว่าใช้ตำแหน่ง หรืออำนาจหน้าที่ในฐานะข้าราชการการเมืองไปหาประโยชน์ในการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าการหาเสียงของผู้สมัคร สามารถโยงกับบุคคลอื่นที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคได้หรือไม่ว่าเป็นผู้ที่คิดนโยบายนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่กล้าตอบเรื่องนี้ แต่คิดว่าถ้าเรื่องนโยบายที่ถูกอ้างถึงเคยเกิดขึ้นจริง และจะนำมาพูดตอนนี้ คงไม่เป็นไร เช่น การบอกว่านโยบายเรื่องนี้มาจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และจะนำมาต่อยอดในตอนนี้ การพูดลักษณะนี้ ไม่เป็นปัญหา เป็นการอ้างที่มาที่ไป

เมื่อถามว่าหลังจากนี้รัฐบาลจะนัดหารือกับกกต.อีกครั้งหรือไม่ หรือรอให้กกต. แจ้งวันเลือกตั้งแล้วส่งมาให้รัฐบาลเป็นผู้ประกาศ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องการประกาศวันเลือกตั้ง รัฐบาลทำให้อยู่แล้ว คาดว่าจะเป็นวันที่ 22 มี.ค.นี้ ดังนั้น รัฐบาลไม่จำเป็นต้องนัดหารือกับกกต.อีก ยกเว้นจะมีคำถามข้อสงสัยหรือมีเรื่องสำคัญ ทำให้ต้องนัดกกต. มาพบ

เมื่อถามว่าบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีหรือข้าราชการการเมือง และมีรถประจำตำแหน่ง จะต้องนำรถคืนหน่วยงานรัฐหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ต้องส่งคืน เพราะถือว่ายังเป็นรัฐมนตรี ยังปฏิบัติหน้าที่ ยังคงตำแหน่งราชการการเมืองอยู่ ยังได้รับเงินเดือน ถือว่ายังทำหน้าที่ตรงนั้นอยู่ จึงใช้รถประจำตำแหน่งได้ต่อไป

เมื่อถามย้ำว่าหากลงพื้นที่ตรวจราชการ แล้วต่อด้วยการลงพื้นที่หาเสียง สามารถใช้รถประจำตำแหน่งเดินทางต่อได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้ได้ แต่ต้องเติมน้ำมันเอง แต่ให้เป็นกรณีต้องเติมน้ำมันของหลวง เช่น เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้โดยสารไปตรวจราชการ ก็อาจเปลี่ยนเป็นการขยายเวลาลงพื้นที่ ให้เป็นเวลาเดินทางกลับประมาณ 16.00 น.ได้ แม้จะใช้รถยนต์ประจำตำแหน่งเดินทางได้ แต่อย่าออกนอกเส้นทางในการตรวจราชการ

เมื่อถามว่าแม้ตามเงื่อนไขดังกล่าวจะทำได้ แต่อาจเกิดข้อครหาเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องระวังการถูกตั้งคำถามเรื่องนี้ แต่การไปตรวจราชการ ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะไปทำหน้าที่ แต่ถ้าพบว่ามีการเอาเปรียบในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจราชการ เช่น ไปราชการแจกโฉนดที่ดินในจังหวัดหนึ่ง แต่ใช้ยานพาหนะเดียวกันต่อไปอีกจังหวัดหนึ่งเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง แบบนี้ทำไม่ได้ ถือว่าออกนอกเส้นทาง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ