วิษณุ เตือนข้าราชการอย่าเกียร์ว่าง ช่วงคาบเกี่ยวปม 8 ปี ระวังผิด ม.157 เผย นายกฯไม่กังวล กำชับทุกคนทำหน้าที่ตามปกติ รอฟังศาลรธน.ชี้ขาด

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ส.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม. ถึงการชี้แจงรายละเอียด กรณีมีผู้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ตนได้แจ้งครม. ให้รับทราบว่า ประธานรัฐสภา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยกกต.ไม่รับคำร้องดังกล่าว ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดประชุมวันที่ 24 ส.ค.นี้ ซึ่งประชุมของศาลตามปกติ โดยศาลอาจจะสั่งรับหรือไม่รับคำร้องก็ได้

แต่ตนคิดว่าไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับคำร้องในเรื่องนี้ ถ้าศาลรับเรื่อง จะตามมาด้วยสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หรือ ไม่ต้องหยุด แต่อาจจะไม่ได้สั่งในวันที่ 24 ส.ค.นี้ทันที เนื่องจากมีกระบวนการ ไต่สวน 2-3 วัน ถ้าศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ก็ต้องหยุด และมีผู้ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทนตามที่เรียงลำดับไว้ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นผู้รักษาการ แต่ถ้าศาล สั่งว่านายกฯไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หรือไม่ได้พูดอะไร ก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะพิจารณาได้เร็ว

“หลังจากผมชี้แจงเสร็จ นายกฯ บอกไม่ได้กังวล และขอบคุณ ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาล และให้ครม.ปฏิบัติหน้าที่ต่อ และขอให้ทุกคนทำหน้าที่ไปตามปกติ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล และระหว่างรอคำวินิจฉัย ก็ไม่มีข้อควรระวัง ทั้งนี้ นายกฯไม่ได้พูดเรื่องม็อบ” นายวิษณุ กล่าว

ส่วนเรื่องงบประมาณ กำชับว่าขอให้ทุกคนอยู่ร่วมโหวต เพราะวันนี้อาจจะเสร็จ เหลืออีก 10 มาตรา อย่าให้การประชุมล่ม ขอให้ไปประชุมให้ครบ จะได้เสร็จ

นายวิษณุ กล่าวว่า ระหว่างนี้ ขอให้ฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาล ไม่มีอะไรเสี่ยงและผิดกฎหมาย ไม่ว่าศาลจะสั่งให้หยุดหรือไม่ หรือปฏิบัติหน้าที่ไปสักระยะแล้วศาลมีคำวินิจฉัย ออกมา

สมมติว่า ครบ 8 ปี พ้นไปตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. แต่ครม.ที่นั่งทำงานอยู่ก็ไม่มีปัญหา แม้ครม.จะพ้นไปด้วย เพราะยังรักษาการได้ และยังปฏิบัติหน้าที่ได้ เมื่อไปถึงตอนที่ศาลวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง รัฐบาลสิ้นสุดลง แม้ในทางกฎหมายจะรักษาการได้ แต่จะรักษาการหรือไม่ ในทางปฏิบัติขึ้นอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ แต่โดยปกติก็ไม่ควร และอาจให้บุคคลอื่นปฏิบัติหน้าที่แทน โดยประธานสภาจะต้องสรรหาบุคคลใหม่ มาเป็นนายกฯ ตามบัญชีเดิมที่แต่ละพรรคเสนอ ทุกอย่างเดินไปตามปกติ

ส่วนการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและงบประมาณให้ทำได้ไปตามปกติ แต่ใครที่หยุด ไม่ทำอะไรและเกียร์ว่าง อาจจะขัดกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เกี่ยวข้องกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อปี 2562 อาจถือว่าเป็นนายกฯ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 จะส่งผลต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น ไม่เกี่ยวกัน การที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพราะมีข้อกฎหมายระบุไว้ว่าไม่ต้องยื่น การที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องยื่นนั้น ก็แล้วแต่ศาลจะไปแปลเอา

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากศาลรับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว จะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะบอกให้ครม.หรือนายกฯชี้แจง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ปกติ เมื่อศาลประชุมและเห็นคำร้องเป็นครั้งแรก อาจมอบให้องค์คณะย่อยที่มี 2 คณะ ไปพิจารณาแล้วทำความเห็นกลับมาภายใน 3-4 วัน ถ้าจะให้ชี้แจง ก็ต้องให้เวลา

เมื่อถามว่าการเป็นนายกฯ สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ปี 2562 มาจากการลงมติของสภา มีนัยยะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีนัยยะ แต่ตนขอไม่พูด แล้วแต่ศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากรองนายกฯ ทั้ง 6 คน ไม่มีคนใดต้องการทำหน้าที่รักษาการ จะทำอย่างไรต่อไป นายวิษณุ กล่าวว่า ทำไมสมมติอย่างนั้น เพราะมี 6 คน แต่ถ้ามีกรณีนั้นเกิดขึ้น ครม.จะต้องประชุมกัน เพื่อหาบุคคลมาทำหน้าที่รักษาการนายกฯ สมมติว่ามีรองนายกฯ แค่คนเดียว แล้วเกิดเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต ก็ให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง มาทำหน้าที่ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน