วันที่ 9 ตุลาคม ของทุกๆ ปี เป็น วันไปรษณีย์โลก World Post Day ถือว่าเป็นวันครบรอบการก่อตั้งสหภาพไปรษณีย์สากล (UPU) ก่อตั้งเพื่อให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของการสื่อสารและบริการไปรษณีย์ โดยการประชุมวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2417 ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ลงนามในสนธิสัญญาเบิร์น จัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อช่วยดูแลการส่งไปรษณีย์ทั่วโลก หลังจากนั้นได้มีประกาศให้วันที่ 9 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันไปรษณีย์โลก โดยในปีนี้ไปรษณีย์ไทยได้จัดสร้างแสตมป์ที่ระลึกวันไปรษณีย์โลก ประจำปี 2566 ออกจำหน่ายวันที่ 9 ตุลาคมนี้ด้วย
- เช็กเลย! วันหยุด วันสำคัญ เดือนตุลาคม 2566 ไปเที่ยวไหนดี?
- เคล็ดลับ “วันไหว้พระจันทร์ 2566” ทำอะไรบ้าง วิธีขอพรเทพฉางเอ๋อ เสริมความเป็นสิริมงคล
- รวมพิกัด! ช่องทางการบริจาคช่วยเหลือสัตว์จรจัด หมา-แมวไร้บ้าน
โดยในปี พ.ศ. 2417 ได้มีการประชุมใหญ่การไปรษณีย์ระหว่างประเทศขึ้นที่กรุงเบอร์น (Bern) สวิตเซอร์แลนด์ มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุม 22 ประเทศ ทำให้มีการจัดตั้งสหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union) ขึ้น เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ซึ่งถือเป็นวันสหภาพสากลไปรษณีย์ (UPU Day) มาจนทุกวันนี้ และนับแต่ตอนกลางของ คริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา วิทยาการสมัยใหม่ก้าวหน้ามาอย่างรวดเร็ว มีการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องจักรใหม่ๆ มาใช้ผ่อนแรง นำเครื่องจักรกลต่างๆ มาใช้ในการปฏิบัติงานมากขึ้น เช่น เครื่องประทับขีดฆ่าตราไปรษณียากร เครื่องเรียงจดหมาย และอื่นๆ มีการส่งดาวเทียม เพื่อการสื่อสาร ออกไปโคจรรอบโลก รวมทั้งมีการเปิดบริการใหม่ๆ แก่ประชาชน เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
ประวัติ วันไปรษณีย์โลก
การติดต่อส่งข่าวสารระหว่างกันในสมัยแรก ประมาณสามพันปีก่อนคริสต์ศักราช คนทั่วไปใช้การจำข่าวสารและบอกกันไปจนถึงผู้รับข่าวสารนั้น (memorized messages) โดยพระเจ้าแผ่นดินหรือเจ้าผู้ครองนคร มักจะมีคนสื่อสารโดยเฉพาะ
ต่อมาเมื่อมีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นเพื่อใช้แทนเสียงที่พูด การใช้ตัวอักษรเขียนข่าวสารติดต่อสื่อสารกันก็เริ่มมีขึ้น ระบบการส่ง ข่าวสารวิวัฒนาการขึ้นเป็นลำดับ ในรัชสมัยพระจักรพรรดิออกัสตัส (Augustus, 63 ปีก่อนคริสต์ศักราชค.ศ. 14) แห่งจักรวรรดิโรมัน ได้มีการจัดตั้งระบบ การติดต่อทางไปรษณีย์ของทางราชการ (state post) ขึ้น มีการใช้ม้าในการส่งข่าวสาร มีการจัดตั้งสถานีที่พักสับ เปลี่ยนเจ้าหน้าที่และม้า มีอาหาร และที่พักพิงสำหรับเจ้าหน้าที่สื่อสาร และข้าราชบริพารที่เดินทางมาพัก เรียกว่า โพซิตัส (positus) แปลว่า ตั้งไว้ หรือกำหนดไว้เชื่อว่า เป็นที่มาของคำว่า “post” (การไปรษณีย์) ในปัจจุบัน
ต่อมาในยุคกลางได้มีการใช้นกพิราบสื่อสาร (pigeon post) ซึ่งสามารถทำได้รวดเร็ว และปลอดภัยกว่าวิธีการอื่นๆ ในระยะใกล้เคียงกัน ส่วนระบบการส่งข่าวสารเดิมคือม้าเร็ว หรือคนขี่ม้าก็ยังใช้อยู่ ใน พ.ศ. ๑๘๔๘ ในอิตาลีและสเปน มีการ จัดตั้งบริษัทรับส่งข่าวสารขึ้น ในการบริการรับส่งข่าวสารในยุโรปสมัยนั้น ส่วนเมืองที่ไม่มีบริการนี้ ประชาชนก็ได้อาศัยฝากจดหมาย และสิ่งของไปมากับพ่อค้าขายเนื้อ ซึ่งเดินทางไปหาซื้อเนื้อ ตามท้องถิ่นต่างๆ แทบทุกวัน
ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการไปรษณีย์เกิดขึ้นทั่วไปในแทบทุกประเทศในสหรัฐอเมริกา มีการไปรษณีย์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่เมืองบอสตัน ในฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ทรงวางรากฐานการไปรษณีย์หลวงของฝรั่งเศส ให้ทำการรับส่งจดหมาย ส่วนการไปรษณีย์ภายในตัวเมือง มีชาวฝรั่งเศสชื่อ เดอ วาลาเยร์ (De Valayer) คิดวิธีจัดตั้งไปรษณีย์ขนาดย่อมขึ้น โดยจัดตั้งตู้ไปรษณีย์ไว้ตามจุดต่างๆ ไขเก็บจดหมายวันละ 3 ครั้ง นำจ่ายวันละ 4 ครั้ง เขายังเสนอแนะให้ใช้กระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนว่า “ใบเสร็จรับเงินค่านำส่ง” (receipt for the payment of transport) เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนที่ต้องการส่งจดหมาย เดอ วาลาเยร์ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดตั้งการไปรษณีย์ขนาดย่อม ตามความคิดของเขาขึ้นในปารีส เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2196 ต่อมาก็ได้มีการไปรษณีย์ชนิดเดียวกันนี้ ที่เมืองสตราบูร์ก (strasbourg) และเมืองอื่นๆ สำหรับ ในชนบทนั้นมีการว่าจ้างคนเดินหนังสือเป็นรายปี
พ.ศ. 2223 มีพ่อค้าชาวอังกฤษชื่อ นาย ด็อควรา (Dockwra) เดินทางมาค้าขายที่ปารีสเสมอ จึงนำเอาแบบอย่างการไปรษณีย์ขนาดย่อมที่ปารีส ไปใช้ที่ลอนดอน นอกจากนี้ ยังได้จัดทำตราประทับ บอกวัน เดือน ปี และเวลาในการฝากส่ง นำเอา ระบบการลงทะเบียนและการรับประกันมาใช้ใน บริการของเขาด้วย ในจีนสมัยราชวงศ์ชิง (Ching dynasty, ค.ศ. 1662 – 1911) นั้น มีการส่งข่าวสาร อยู่ 2 ระบบ คือ การเดินหนังสือราชการธรรมดา และการเดินหนังสือด่วนครอบคลุมทั่วประเทศ มี ม้าใช้เป็นพาหนะรับส่ง และมีสถานีสับเปลี่ยนม้าในเส้นทางทะเลทรายก็ใช้อูฐเป็นพาหนะ
นับแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา กิจการไปรษณีย์ได้รับการพัฒนาเจริญก้าวหน้ามาเป็นอันมาก ทั้งในตัวระบบการไปรษณีย์เอง และการใช้อุปกรณ์เครื่องมือ ตลอดจนยานพาหนะต่างๆ มีการใช้เรือกลไฟ และรถไฟในการขนส่งถุงไปรษณีย์ บริการไปรษณีย์ซึ่งแต่ก่อนมักจะมีอยู่แต่ในเมืองใหญ่ๆ ในศตวรรษนี้ ก็ขยายตัวออกไปยังภูมิภาคต่างๆ รัฐบาลของประเทศต่างๆ เริ่มซื้อกรรมสิทธิ์การจัดรับส่งไปรษณีย์ กลับมาเป็นของรัฐบาล และดำเนินการเอง
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2383 รัฐบาลอังกฤษได้พิมพ์แสตมป์ออกใช้ แสตมป์ดวงแรกของโลกคือ แสตมป์แบล็คเพนนี (black penny) เป็นภาพสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (Victoria, ค.ศ. 1819 – 1901, พระราชินีผู้ปกครองประเทศอังกฤษ) ราคาบนดวง หนึ่งเพนนี (one penny) ไม่มีชื่อประเทศ กำกับ
ส่วนแสตมป์ที่มีราคาสูงที่สุดในโลก คือ แสตมป์ สีม่วงแดง (black on margenta) ราคาบนดวง 1 เซ็นต์ (one cent) ของประเทศกายอานาอังกฤษ (British Guiana) ปัจจุบันคือประเทศกายอานา แสตมป์ดวง นี้ออกใช้เมื่อ พ.ศ. 2392 หลังจากเลิกใช้ไปนาน ถึง 17 ปี ใน พ.ศ. 2416 เด็กชายวัยสิบขวบ คนหนึ่งก็ได้พบโดยบังเอิญ และมีการซื้อขายเปลี่ยน มือเรื่อยมา ราคาที่ประมูลกัน ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2523 เป็นเงินประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือ 23 ล้านบาท เมื่อคิดเทียบตามอัตราการแลกเปลี่ยนเงินไทยในขณะนั้น
ที่มา : มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY