วงในข่าวกรองมอสโกแฉ รัสเซีย รุกรานยูเครน ชัยชนะแทบเป็นไปไม่ได้

Home » วงในข่าวกรองมอสโกแฉ รัสเซีย รุกรานยูเครน ชัยชนะแทบเป็นไปไม่ได้


วงในข่าวกรองมอสโกแฉ รัสเซีย รุกรานยูเครน ชัยชนะแทบเป็นไปไม่ได้

วันที่ 8 มี.ค. ฟ็อกซ์นิวส์ เผยแพร่รายละเอียดใน จดหมายที่อ้างว่าเขียนโดยนักวิเคราะห์ข่าวกรองรัสเซีย ซึ่งทำงานอยู่ในหน่วยความมั่นคงกลาง (เอฟเอสบี – FSB) หน่วยข่าวกรองของ รัสเซีย เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของกองกำลังทหาร รัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ว่าเกิดอุปสรรคและความท้าทายอย่างคาดไม่ถึง ทำให้การคว้าชัยชนะแทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากการบาดเจ็บล้มตายยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางการเผชิญมาตรการคว่ำบาตรรุนแรง

จดหมายความยาวมากกว่า 2,000 คำ โดยผู้เปิดโปงความจริงใน FSB ระบุว่า จำนวนทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในการรุกรานยูเครนอาจมี 10,000 นาย ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการประมาณการของยูเครน และสวนทางกับตัวเลข 498 นาย ที่รายงานโดยรัฐบาลรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รายงานระบุว่า รัสเซียไม่มีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ถูกต้องแม่นยำ หลังขาดการติดต่อกับหน่วยทหารภายในยูเครน และ FSB ถูกตำหนิว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลรัสเซียในการป้องกันกองกำลังป้องกันยูเครน ขณะที่ FSB ไม่ได้รับคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนตามคำสั่งของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน ส่วนรัสเซียยังไม่พร้อมรับมือกับผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรทั่วโลกที่ตอนนี้รัสเซียกำลังเผชิญ ขณะที่สกุลเงินรูเบิลยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง

“ไม่มีใครรู้ว่าจะมีสงครามเช่นนี้ จึงไม่มีใครเตรียมรับมือกับมาตรคว่ำบาตรเช่นนี้ ไม่มีตัวเลือกชัยชนะที่เป็นไปได้แค่นั้นเอง” รายงานระบุ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ถูกกดดันในการปรับแต่งรายงานการบรรยายตามที่คณะผู้นำรัสเซียต้องการ

“เราถูกกดดันเพิ่มขึ้นเพื่อปรับแต่งรายงานเป็นไปตามข้อกำหนดของฝ่ายบริหาร – ครั้งหนึ่งฉันเคยพูดถึงประเด็นนี้แล้ว ที่ปรึกษาทางการเมือง นักการเมือง และบริวาร อิทธิพลของทีมงาน ทั้งหมดนี้ก่อเกิดความสับสน” ผู้เขียนระบุ

“ตอนนี้ต่อให้ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ถูกสังหาร ถูกจับเข้าคุก จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และตอนนี้แม้แต่ผู้ภักดีต่อเรายังต่อต้าน เพราะเป็นการวางแผนมาจากเบื้องบน เพราะเราได้รับแจ้งว่าไม่มีตัวเลือกเช่นนั้น เว้นแต่เราจะถูกโจมตี และแม้จะมีแรงต่อต้านระดับต่ำสุดจากชาวยูเครน เรายังต้องการกำลังทหารมากกว่า 500,000 นาย ไม่รวมคนงานจัดหาและคนงานโลจิสติกส์” ผู้เขียนอ้าง

จดหมายยังเปรียบเทียบความล้มเหลวของรัสเซียในการพิชิตยูเครน กับความผิดพลาดที่ก่อโดยนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้เขียนระบุว่า ยังต้องจับตาว่าคณะผู้นำรัสเซียจะเริ่มขัดแย้งกับยุโรปเพื่อพยายามลดมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่

“ตอนนี้ฉันไม่ได้ตัดประเด็นออกว่า เราจะถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่แท้จริงเช่น (อดีตผู้นำนาซีเยอรมนี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในปี 2482 จากนั้น สัญลักษณ์ Z (ซี – สนับสนุนรัสเซีย) ของเราจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับรัสเซียเหมือนเครื่องหมายสวัสติกะ (ของนาซีเยอรมนี) หรือไม่” ผู้เขียนระบุ

ผู้เขียนกล่าวถึงคำถามที่ว่าปูตินจะเริ่มโจมตีด้วยนิวเคลียร์กับตะวันตกหรือไม่ว่า ใช่ แต่ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร แต่เพื่อข่มขู่คนอื่น และเสริมว่า เอสวีอาร์ (SVR) หน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียกำลังขุดคุ้ยเพื่อหาหลักฐานว่า ยูเครนแอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์อย่างลับๆ เพื่อพิสูจน์การโจมตีดังกล่าว

“ฉันไม่เชื่อว่าปูตินจะกดปุ่มสีแดงเพื่อทำลายโลกทั้งใบ” ผู้เขียนจดหมายระบุ

 

เนื้อหาในจดหมายข้างต้น มีการเผยแพร่โดย วลาดีมีร์ โอเซชกิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มกูลากูดอตเน็ต บนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อสัปดาห์ก่อน

ด้าน คริสโต โกรเซฟ ผู้ทำงานให้ เบลลิงแคต กลุ่มวารสารศาสตร์เชิงสืบสวนซึ่งมีสำนักงานในเนเธอร์แลนด์ โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า นำจดหมายให้คนของ FSB 2 คนดู คนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปัจจุบัน อีกคนเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ ทั้งสองไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยว่า ผู้เขียนเป็นเพื่อนร่วมงานใน FSB

แม้ว่าโกรเซฟจะสงสัยสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของจดหมาย แต่กล่าวว่า จดหมายบรรยายแตกต่างออกไปเหมือนมาจากแหล่งข้อมูลเชื่อถือได้ และต้องใช้เวลานานกว่าวิธีการอื่นๆ ที่คนตั้งใจปลอมแปลงจะเลือกใช้

 

อย่างไรก็ตาม รีเบกา คอฟฟ์เลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองกลาโหมสหรัฐ และผู้เขียนหนังสือ Putin’s Playbook: Russia’s Secret Plan to Defeat America (คู่มือของปูติน: แผนลับของรัสเซียเพื่อเอาชนะอเมริกา) กล่าวว่า จดหมายดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม

จดหมายฉบับนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามบิดเบือนข้อมูลจากยูเครน โดยอ้างรายละเอียดหลายประการในจดหมายที่ดูจะน่าสงสัย

“ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังทำสงครามข้อมูลซึ่งกันและกัน มันยาวมากและรวมทุกอย่างด้วยกัน หากเขาเป็นเจ้าหน้าที่ FSB จริงๆท่ามกลางความขัดแย้งนี้ ใครจะมีเวลาเขียนโพสต์ยาวๆ”

เธออ้างการอ้างอิงของผู้เขียนถึงอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นตัวอย่างหนึ่งว่า ฮิตเลอร์เป็นเรื่องเล่าของชาวตะวันตก รัสเซียเกลียดฮิตเลอร์จริง แต่ไม่น่าจะเทียบปูตินกับฮิตเลอร์ได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ