ลูกสาว 3 ขวบ ฟ้องมี "สัตว์ประหลาด" อยู่ในบ้าน พ่อแม่ถึงขั้นพังกำแพง เจอกับตาขนลุกซู่

Home » ลูกสาว 3 ขวบ ฟ้องมี "สัตว์ประหลาด" อยู่ในบ้าน พ่อแม่ถึงขั้นพังกำแพง เจอกับตาขนลุกซู่
ลูกสาว 3 ขวบ ฟ้องมี "สัตว์ประหลาด" อยู่ในบ้าน พ่อแม่ถึงขั้นพังกำแพง เจอกับตาขนลุกซู่

พ่อแม่ไม่สบายใจ ลูกสาว 3 ขวบ บอกมี “สัตว์ประหลาด” อยู่ในบ้าน ถึงขั้นพังกำแพงดูชัดๆ ขนลุกซู่เจอเป็นหมื่นๆ ตัว น้ำหนักเท่ามนุษย์วัยผู้ใหญ่!

คำพูดไร้เดียวสาที่ดูเกินจริงของเด็กๆ หลายครั้งถูกมองข้ามโดยผู้ใหญ่ เพราะคิดว่าเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น แต่เด็กหญิงวัย 3 ขวบในสหราชอาณาจักร ที่บอกพ่อแม่ว่ามี “สัตว์ประหลาด” อยู่ในห้องนอนของตัวเอง และโชคดีที่ผู้ปกครองใส่ใจกับคำบอกเล่านั้น ถึงขั้นให้เจ้าหน้าที่พังเพดานเพื่อตรวจสอบดูให้แน่ใจ และต้องผงะเมื่อพบกับผึ้ง 60,000 ตัวบน!!!

ตามรายงานพบว่า “เซย์เลอร์ คลาส” ซึ่งอาศัยอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งในนอร์ธแคโรไลนา วันหนึ่งลูกสาวที่อายุเพียง 3 ขวบ มาบ่นให้ฟังว่ามี “สัตว์ประหลาด” อยู่ในห้องนอนของตัวเอง แม้ในตอนแรกเธอจะไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนัก เนื่องจากลูกสาวพูดเรื่องนี้หลังจากดูภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Monsters, Inc. จึงคิดว่าลูกสาวจินตนาการเรื่องนี้มากเกินไป

“เรายังให้น้ำหนึ่งขวดแก่เธอ และบอกว่ามันเป็นสเปรย์กำจัดสัตว์ประหลาด เพื่อที่เธอจะได้ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวใดก็ได้ในตอนกลางคืน” แอชลีย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนต่อมมา ลูกสาวก็ยังคงยืนกรานว่ามีบางอย่างอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเธอ ในเวลาเดียวกันเธอเองก็ค้นพบฝูงผึ้งในห้องใต้หลังคาและปล่องไฟด้วย และเริ่มสงสัยว่าสัตว์ประหลาดที่ลูกพูดถึงคือเสียงหึ่งๆ ของผึ้งหรือเปล่า เธอและสามีจึงติดต่อบริษัทกำจัดสัตว์รบกวน และได้รับการยืนยันว่าแมลงที่บินอยู่ใกล้ๆ บ้านของครอบครัวพวกเขานั้นเป็นผึ้งจริงๆ ซึ่งปัจจุบันถือเป็นสัตว์คุ้มครองในสหรัฐอเมริกา

สุดท้ายพวกเขาติดต่อผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผึ้ง ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนสแกนห้องนอนของลูกสาว และพบรวงผึ้งขนาดยักษ์ เมื่อเปิดเพดานผึ้งนับพันตัวก็บินออกไป ซึ่งเป็นภาพที่ต้องบรรยายว่า “เหมือนหลุดออกมาจากหนังสยองขวัญเลย” ในที่สุดผู้เชี่ยวชาญก็สามารถกำจัดแมลง 55,000 ถึง 65,000 ตัวได้สำเร็จ พวกมันมีน้ำหนักรวมถึง 45 กิโลกรัม โดยจะถูกย้ายไปยังเขตสงวนต่อไป

ทั้งนี้ ตามรายงานยังระบุด้วยว่า บ้านของครอบครัวนี้มีอายุมากกว่าหนึ่งศตวรรษ และวิกฤตผึ้งครั้งนี้ยังทำให้พวกเขาสูญเสียเงินมากกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.4 แสนบาท)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ