เมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 9 เมษายน 2567 ร.ต.ท.มนตรี สายวงค์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ในที่เกิดเหตุพบนางบุญส่ง จิตทนงค์ อายุ 71 ปี เจ้าของบ้าน นอนสลบไม่รู้สึกตัวใบหน้าฟกช้ำจากการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า แต่นางบุญส่ง ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นลูกชายผู้เสียชีวิต ชื่อนายณรงค์ชัย จิตทนงค์ อายุ 30 ปี พยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตามไปควบคุมตัวไว้ได้ที่บริเวณสวนสุขภาพเทศบาลตำบลบางจะเกร็ง แต่นายณรงค์ชัยมีอาการช็อคหัวใจวาย เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ายังวิกฤติ ความดันตก อยู่ในห้องไอซียู
ต่อมา เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ เมืองสมุทรสงคราม นำเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม พร้อมนางสาวชนัตถา ถนอมชาติ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.บางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้กั้นบริเวณไม่ให้คนเข้าออกในบ้าน ส่วนญาติๆไปรับศพนางบุญส่ง ที่สภาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
นางสาวชนัตถา ถนอมชาติ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในบ้านพัก จึงรีบมาตรวจสอบก็พบว่านางบุญส่ง นอนหมดสติจมกองเลือด สอบถามเบื้องต้นทราบว่านายณรงค์ชัย ลูกชายเป็นคนทำร้ายด้วยการใช้เข็มขัด ฟาดที่ใบหน้า และใช้เท้ากระทืบ ซึ่งไม่ทราบว่ามีอะไรเป็นเหตุจูงใจ รู้เพียงว่านายณรงค์ชัย เสพยาบ้าจนเพี้ยนมีอาการจิตเวช มักจะมีเรื่องราวทะเลาะกันในบ้านและเพื่อนบ้านเป็นระยะ แต่ไม่เคยรุนแรงแบบนี้
นางสาวชนัตถา กล่าวว่า ยาบ้าเป็นโทษกับสังคมมากมันร้ายแรงมาก พอมาเป็น 5 เม็ด และมีราคาถูกทำให้เข้าถึงง่าย รวมทั้งกัญชา และน้ำกระท่อม เด็กและเยาวชนเข้าถึงง่ายและควบคุมยาก
นางอมลวรรณ ธุวกุลเรืองโรจน์ (เสื้อคอกระเช้าสีเขียว) อายุ 60 ปี อยู่บ้านติดกัน เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งจัดดอกไม้ ได้ยินเสียงดังปับๆๆ ทำร้ายร่างกายกันดังมาก ตนไม่กล้าโผล่เข้าไปช่วย ก็เดินหนี เพราะกลัวจะออกมาทำร้ายตน ก่อนหน้านี้จะทะเลาะกันในบ้านเป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงแบบนี้
- อดีตผู้การเรือหลวงสุโขทัย ประกาศลาออก เซ่นปม เรือสุโขทัยล่ม
- ศาลอนุมัติประกันตัว 15 ตำรวจ คดีสารวัตรศิว ด้าน ‘กำนันนก’ นอนคุกต่อ
- บุกทลาย! โกดังยากันยุงเถื่อน จ.พิจิตร สูดดมเข้าไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
นางบุญยงค์ มิ่งสำอางค์ อายุ 63 ปี เพื่อนบ้าน (เสื้อลายสกอต) เล่าว่า ตนได้ยินเสียงดัง น่ากลัวมากและอยากเข้าไปช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะบ้านปิดล๊อคจากข้างใน ถ้าพี่สาว และหลาน ลงมาชั้นล่างก็คงเสียชีวิตอีก 2 คน
นางเรณู จิตทนงค์ อายุ 59 ปี พี่สาวผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนอนอยู่บนบ้านกับลูกชายได้ยินเสียงดังตกใจมากจึงรีบวิ่งลงมาดูก็เห็นว่ามารดาของตนนอนสลบจมกองเลือดแล้ว ตนและลูกชายพยายามลงไปช่วยแต่น้องชายผู้ก่อเหตุก็ ทำท่าจะมาทำร้ายตนกับลูกชาย ตนจึงวิ่งหนีขึ้นไปบนห้องแล้วล็อคประตูแล้วรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ พอเจ้าหน้าที่มาถึงได้เข้ามาช่วยมารดาของตน ส่วนน้องชายก็รีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป ทันที ขณะเกิดเหตุน้องชายของตนคลั่งและอาละวาดเพ้อบ่นอย่างเดียวว่า ตนเป็นไอ้ไข่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่า หลอนเรื่องอะไร ทุกวันนี้เสียใจมาก ที่ต้องเสีย มารดาผู้เป็นที่รักไป กล่าวว่า ผู้ตายเป็นสมาชิกสภาเทศบาล 2 สมัย เป็นคนตั้งใจทำงาน มีนิสัยนายสราวุธ กล้วยจำนงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางจะเกร็ง ช่วยเหลือ ผู้คน ตนเสียดายมากเพราะอยู่ทำงานมาด้วยกันกับตนมาตั้งนาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านางบุญส่ง จิตทนงค์ เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางจะเกร็งเขต 1 อาศัยอยู่กับลูกสาวคนโต และหลานชายอีก 1 คน รวม 3 คน แต่เมื่อ 2 วันก่อนมี นายณรงค์ชัย ลูกชายคนเล็กมาพักอาศัยด้วย และมักจะเสพยาและอาละวาทอยู่ภายในบ้าน กระทั่งเมือคืนนี้สันนิษฐานว่านายณรงค์ชัย คงจะเสพยาเกินขนาดทำให้เกิดอาการหลอนคิดว่าตนเป็นไอ้ไข่ และ จะมีคนมาทำร้าย จึงไล่ทุบไล่ตี คนอื่น โชคร้ายที่ นางบุญส่ง อยู่ชั้นล่าง กับ นายณรงค์ชัย และไม่คิดว่าลูกชายตนเองจะทำร้าย จึงไม่ได้ทันระวัง กระทั่งนายณรงค์ชัย คลั่งทำร้าย นางบุญส่ง ผู้เป็นมารดา เสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงส่งศพนางบุญส่ง ไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป ส่วนนายณรงค์ชัย ต้องรอฟื้นจากอาการสลบ และพาไปประเมินที่สถาบันกัลยา ว่าขณะก่อเหตุมีสติสัมชัญญะหรือไม่ หากมีก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่หากนายณรงค์ชัย เสียชีวิตก็ถือว่าคดีสิ้นสุด
เมื่อเวลา 16.30 น. ญาติๆได้นำศพนางบุญส่ง มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดศรัทธาธรรม ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง และชาวบ้านในพื้นที่ที่มาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 17.30 น. นางเรณู ลูกสาวคนตาย, พี่สาวผู้ก่อเหตุ ได้รับแจ้งเรื่องเศร้าอีกครั้ง เมื่อโรงพยาบาลโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่านายณรงค์ชัย ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นน้องชาย ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางญาติจะคิดกันอีกครั้งว่าจะนำศพของนายณรงค์ชัยมาประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมกับนางบุญส่งผู้เป็นมารดา หรือไม่ ซึ่งพรุ่งนี้ไปรับศพนายณรงค์ชัย และนำศพนางบุญส่งลงโลงจะตัดสินใจอีกครั้ง