เจ้าของร้านชาบูชื่อดังเมืองราชบุรี สุดเซ็ง เจอลูกค้ามากันเป็นครอบครัว หัวหมอหลอกกินฟรี หนำซ้ำหาเรื่องพนักงานจนน้ำตาร่วง อ้างจัดอาหารมั่ว มีจ่ายแค่ 200 บาท อยากได้ให้ไปแจ้งความเอากับเด็กเอา พอเป็นข่าวดัง โทรมาขู่พนักงานให้ลบโพสต์ และต่อว่าพนักงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 มิ.ย.) จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวพฤติกรรมของลูกค้าร้านชาบูแห่งหนึ่ง ที่เข้ามานั่งกินฟรีกันทั้งครอบครัว แต่สุดท้ายเช็กบิลกลับไม่จ่าย อ้างให้ไปแจ้งความเอากับเด็ก

จึงเดินทางไปที่ร้านดังกล่าว ชื่อร้าน โคยกี๊ หม้อไฟ ตั้งอยู่ เลข 143 ถ.วรเดช ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านชาบูในอาคารพาณิชย์ ติดริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนาแม่น้ำ-แม่กลอง

ผู้สื่อข่าวได้พบกับพนักงานประจำร้านที่อยู่ในวันเกิดเหตุ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นเวลา 18.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ลูกค้าครอบครัวนี้มากัน พ่อ แม่ ลูกคนโต และ ลูกคนเล็ก รวมแล้ว 4 คน ขับรถเก๋งมาจอดที่ด้านข้างของร้าน แล้วเดินทางเข้ามาก็มานั่งสั่งกันตามปกติ และมีการสั่งเมนูอาหารพอตนยกไปให้เรียบร้อย เขาก็ต่อว่าว่าตนนำมาผิด ซึ่งตนก็ตอบกลับไปว่าทำไมไม่ทักท้วงออเดอร์ เพราะตนก็จัดมาตามออเดอร์ที่สั่งไป

ซึ่งน้องเด็กผู้ชายเป็นลูกคนโตสั่งเมนูอาหารมาอย่างละ 5 รายการ และเวลาลูกชายคนโตสั่งอาหาร ผู้เป็นแม่ก็ชะโงกดูลูกสั่งตลอด ซึ่งก็สั่งหลายรายการ อาทิ หมูสันคอ เนื้อ ปลาแซลม่อน หอยเชลล์ พอพูดคุยกันไปเขาก็เสียงดังใส่ตนเอง เขาจะยอมจ่ายส่วนที่เขากินเท่านั้น

ส่วนที่ยังไม่กินเขาก็จะไม่จ่าย บอกว่ามีแค่ 200 บาท พูดแบบใช้อารมณ์ตะคอกใส่ตน พ่อเขาก็ลุกเดินออกไป ตอนนั้นตนก็ตกใจ และก็เสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางเจ้าของร้านบอกให้เขากินฟรีไป พ่อของเขาก็เดินกลับเข้ามากินกันจนอิ่ม แล้วก็บอกว่าขอบใจก่อนจะพากันเดินขึ้นรถ และรีบขับออกไปจากร้าน

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบในบิลรายการแล้วพบว่า ลูกค้าครอบครัวดังกล่าว ได้เข้ามานั่งรับประทานอาหารที่ โต๊ะ 12 – 13 – 14 และ โต๊ะที่ 15 ซึ่งลูกชายคนโตนั่งที่หัวมุมโต๊ะที่ 12 ลูกชายคนเล็กนั่งที่โต๊ะ 13 แม่ นั่งโต๊ะที่ 14 และผู้เป็นพ่อนั่งโต๊ะที่ 15

โดยจากการตรวจสอบบิลใบเสร็จ พบว่า ผู้เป็นแม่สั่งอาหารรวมกัน จำนวน 175 บาท ผู้เป็นพ่อสั่งรายการอาหารรวมกัน 140 บาท แต่ส่วนของลูกชายคนโตสั่งเมนูอาหารรวมกัน 1,045 บาท รวมเป็นเงิน 1,360 บาท

เมื่อดูจากรายการอาการที่ลูกชายคนโตสั่ง จะประกอบไปด้วยรายการใหญ่ๆ เกี๊ยวปลาจักรพรรดิ จำนวน 2 ถาด ราคา 40 บาท ลูกชิ้นกุ้งมังกร 2 ถาด 40 บาท สาหร่ายวากาเมะ 3 ถาด 45 บาท หมูเด้ง 3 ถาด 60 บาท ริบอายสไลด์ 5 ถาด 150 บาท ชัคอายสไลด์ 5 ถาด 150 บาท และรายการอื่นๆ อีก อย่างละ 1-2 ถาด รวม 42 ถาด

นายภาวัต สงวนหงส์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยเรื่องราวที่โพสต์ผ่านเพจของร้านว่า จริงๆ แล้วตนไม่อยากได้เงินค่าเสียหายที่ลูกค้ากินไป แต่ในช่วงเวลานั้นพนักงานเหลือเพียงแค่ 2 คน ตนก็เลยตัดปัญหาให้กินฟรี ในเมื่อลูกค้าเขาบอกว่าเขาไม่มีเงินมีเงินแค่ 200 บาท แล้วจะเอาที่ไหนมาจ่าย

ตนเผื่อลูกค้าเขาจะแกล้งและก็เหมือนลูกค้าจะคิดว่าเราดูถูกเขา แล้วเขาก็หยิบเงินในกระเป๋ามาจ่าย แต่บังเอิญว่าเราบอกให้เขากินฟรี เขาก็เลยกินฟรีแล้วเขาก็กลับไป แล้วตนเองก็มาคิดอีกทีว่าทำไมเขาทำให้พนักงานที่ร้านอึดอัดถึงกับร้องไห้ เงินที่เขามีอยู่ 200 บาท ที่มีติดตัวมา เขาทำไมไม่ให้เป็นทิปน้องๆ ไป อย่างน้อยเป็นสินน้ำใจ

นายภาวัต เจ้าของร้านได้ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ลูกค้ากลุ่มนี้มากับแบบครอบครัว มากัน 4 คน เริ่มต้นเขามาจอดรถแล้วก็ไปนั่งทานตามปกติ เขาถามน้องๆ ก่อนว่า เป็นบุฟเฟ่ต์หรือเป็นแบบไหน พนักงานก็ตอบไปว่าไม่ใช่บุฟเฟ่ต์เป็นแบบตามสั่ง เขาก็ดูเมนูกันตามปกติและก็ติ๊กเมนูเลือกอาหารกันตามปกติ

พอเราเอาเอกสารเมนูมาดูแล้ว คนที่เป็นพ่อและแม่ เขาก็ติ๊กกันตามปกติบิลต่อบิลประมาณ 100 กว่าบาท แต่ตัวที่มีปัญหาเป็นบิลของลูกที่เขาบอกอายุ 12 ปี ติ๊กเมนูแล้วรวมเป็นเงินมูลค่า 1,045 บาท

เพราะฉะนั้นบิลโดยรวมทั้ง 3 ท่านรวมแล้ว 1,300 กว่าบาท ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และเขาก็ตอบว่าไม่รู้เรื่องลูกเขาเป็นคนสั่ง ถ้าจะเอาเรื่องก็คือไปเอาเรื่องกับลูกเขา คือ ไปเอาเรื่องกับเด็กแล้วกัน

นายภาวัต เจ้าของร้าน กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น ลูกค้ารายนี้กลับมีการท้าทายยังไงเขาก็ไม่จ่าย เพราะร้านมั่วแน่นอน มาบอกว่าทางร้านจัดอาหารมามั่ว เค้าไม่ได้สั่ง อ้างว่าลูกชายอายุ 14 ปี สั่ง ถ้าอยากได้เงินก็ให้ไปแจ้งความจับเด็กละกัน “อยากจะเอาเรื่องกับเด็กรึไง”

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.30 น. ตนพร้อมพนักงานได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.เมืองราชบุรี ในเรื่องนี้ตนไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่นๆ หรือ ร้านอื่นๆ อีก ซึ่งเดิมทีตนโพสต์เพื่อให้ร้านๆ ต่างๆ ในราชบุรีได้ระวังกัน แต่กลับมีการแชร์เรื่องดังกล่าวออกไปจำนวนมาก

ตนก็อยากฝากถึงทุกธุรกิจเลย ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ถ้าจัดการขั้นเด็ดขาดได้ก็สมควรที่จะทำ เพื่อไม่ให้เขาไปกระทำกับคนอื่นๆ อีก

ล่าสุด ลูกค้ารายดังกล่าวได้มีการโทรเข้ามาทางร้านมาข่มขู่พนักงานพร้อมทั้งต่อว่า สั่งให้ทางร้านลบโพสต์เดี๋ยวนี้ โดยใช้น้ำเสียงที่ไม่น่าฟัง เพราะว่าเขาเสียหาย ถ้าไม่ลบโพสต์เขาก็จะดำเนินคดีกลับเหมือนกัน ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ตอนนี้ถ้าจะมาเจรจากันก็ไปเจรจากันต่อหน้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี