ลูกค้าแชร์ประสบการณ์เข้าพักพูลวิลล่าที่หัวหิน ประตูกระจกตกใส่-บาดขาลูก ส่วนตัวเองถูกแก๊สระเบิดจนไฟลวก ไร้เงาเจ้าของมาดูแล แถมพูดจาไม่ดีใส่
วันนี้ (19 ก.ย.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 ได้แชร์ข้อความจากหญิงสาวรายหนึ่ง หลังจากเธอและครอบครัวเข้าพักที่พักแบบพูลวิลล่ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วพบว่าบ้านพักมีปัญหาหลายอย่าง คนในครอบครัวของเธอได้รับบาดเจ็บจากการถูกประตูกระจกของห้องพักแตกใส่ ส่วนตัวเธอเองบาดเจ็บจากการถูกเตาแก๊สระเบิดใส่ แต่กลับทางเจ้าของรีสอร์ตกลับไม่ได้มาดู ไม่สนใจถามอาการ ไม่รับผิดชอบ แถมพูดจาไม่ดีกับเธอด้วย
หญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่า “วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวคะ พูลวิลล่ารีสอร์ตที่หัวหิน เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 16/9/2564 เราได้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในหัวหินเป็นพูลวิลล่า เวลาบ่าย 2 โมงเช็กอินเข้า
เหตุการณ์ที่ 1
เวลาประมาณ 4 โมงกว่าๆ ลูกเดินเข้าบ้านปิดประตูกระจก ประตูตกจึงประคองประตูไม่ให้ล้ม แต่ยังไม่ได้ตั้งตัวดี ตัวเองจึงล้ม และขาจึงโดนกระจกประตูแตกใส่ โทรบอกทางเจ้าของให้เข้ามาดูไม่เข้ามา ให้คนดูแลเข้ามาและคนดูแลมาพูดว่า “ถ้าประตูอยู่ของมันดีๆ ถ้าเราไม่ไปยุ่งมันจะตกลงมาได้ยังไง” เราเลยถามไปว่าถ้าไม่เปิดปิดประตูเราจะเข้าบ้านยังไง เขาพูดเรางงมาก
สรุปคือตามรถ รพ.มารับ ลูกสาวเย็บไปทั้งหมด 27 เข็ม เรารับผิดชอบเองทั้งหมด แล้วบอกกับเราว่าค่าประตูเดี๋ยวหักกับค่ามัดจำที่วางไว้ 2,000 แล้วกัน น่าจะประมาณ 1,200 บาท สรุปจบคือไม่มาดูและถามไถ่ จนเรากลับจาก รพ. 2 ทุ่ม
เหตุการณ์ที่ 2 วันที่ 17/9/2564
เวลาประมาณ 10-11 โมง เรากำลังจะทำต้มข้าวให้ลูกกินก่อนเดินทางกลับ เดินไปเปิดแก๊ส แก๊สระเบิดใส่เป็นลูกไฟใหญ่ๆ พุ่งใส่เรา เสื้อผ้าไหม้หมดแขนขาเราโดนไฟหมด โทรแจ้งทางเจ้าของอีกครั้ง เจ้าของพูดกลับมาว่า “เมื่อคืนคุณก็ทำกับข้าวได้ไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นเป็นอะไร”
เราเลยตอบไปว่า ก็เราจะทำกับข้าวเช้าแล้วมันระเบิดใส่จะให้เราทำอย่างไรได้บ้าง คุณเข้ามาดูเราที่บ้านหน่อยสิคะเพื่อพูดคุย เพราะเราปวดแสบปวดร้อนทุรนทุราย
สรุปคือไม่เข้ามาดู ให้คนสวนเข้ามาดูและโทรถามอาการกับคนสวน เราเลยขอว่านหางจระเข้ไปเพื่อมาทาก่อนจะไป รพ. เอง และเราโทรไปหาเจ้าของรีสอร์ตว่าจะรับผิดชอบเราอย่างไรได้บ้าง และเวลานั้นประมาณ 11 โมง เราเลยแจ้งเขาว่าเราต้องไปโรงพยาบาล เพราะอาการมันไม่ไหว ต้องไปโรงพยาบาลก่อน กว่าจะกลับมาเก็บของคงออกช้ากว่าเที่ยงไม่เป็นไรใช่ไหมคะ
เจ้าของบอกว่าไม่ได้ต้องออกก่อนเที่ยง งั้นเก็บของออกเลย เจ้าของบอกอีกว่า งั้นคุณก็ไปรักษาพยาบาลเอง ส่วนค่ากระจกไม่หักละ 1,200 บาท เดี๋ยวจะคืนค่ามัดจำให้นะ 2,000 คือจบ เราบอกไม่เอาเราให้ไปเลยก็ได้ 2,000 ค่ากระจก ถ้าพูดแบบนี้เดี๋ยวเราจะไปหาหมอเอง แล้วเดี๋ยวจะออกเลย เดี๋ยวมาว่ากันอีกทีเรื่องรักษา
แต่อีกประมาณ 5 นาที ที่เรารีบเก็บของขึ้นรถ ให้พนักงานเอาเงินมาคืนให้เรา 2,000 บาท ค่ามัดจำบ้าน คือเรางงมากคือมาคืนแล้วบอกค่ากระจกไม่คิดนะคะ คือคุณจบแบบนี้เหรอคะ เราเนี่ยตอนคุย เราอยากคุยดี และต้องการให้คุณเข้ามา มาดูแล มาถามไถ่ตามมารยาทของเจ้าของรีสอร์ตบ้าง แต่คุณพูดจาก็ไม่ดี ไม่มาดู ไม่มีมาตามถามอาการตั้งแต่ เหตุการณ์ทีแรกเลย
สรุปเรารับผิดชอบไปรพ.ดูแลแก้ไขกันเองทุกอย่าง รักษาพยาบาลเอง ลางานต้องโดนหักเงิน ขาเราไม่รู้จะหายแล้วเป็นยังไง ลูกต้องไปซ้อมนักกีฬาทีมชาติ ทุกอย่างหยุดหมด เรามีแต่เสียหาย เราให้เกียรติคุณ รอคุณมาหา เราไม่ไปโวยวายหน้าล็อบบี้ แต่คุณตอบแทนแขกที่มาพักแบบนี้เหรอคะ เราไม่ได้มาพักฟรีนะคะเราเสียเงินมาเหมือนกัน และคุณไม่มาแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลยคะ
ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงคะ ต้องมีคนตายใช่ไหมคะ คุณถึงจะมาดูด้วยตัวเอง เราพาครอบครัวมาพักผ่อนแค่ 2 วันก่อนลูกจะเข้าซ้อมเก็บตัว ใครจะอยากให้เรื่องเกิด ใครอยากจะมีปัญหาคะ
แจ้งก่อนนะคะ
- ประตูบ้านตอนรับบ้านฝืด เปิดเข้าออกฝืดมาก ประตูตกราง
- เตาแก๊สจุดไม่ติดตั้งแต่แรก แจ้งเจ้าหน้าที่มาแก้ไข 2-3 คน ถึงใช้ได้
- ประตูหลังบ้านเปิดปิดแถบไม่ได้ ติด
- ส้วมกดไม่ลง
ขอบคุณบ้านหลังที่ 2 คนที่มาพักเหมือนกันกับเรา ที่ช่วยโทรเรียกรถพยาบาล ฝากไว้นะคะถ้าใครไปที่พักควรเช็กและตรวจสอบให้ดีนะคะ”
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยมองว่ากรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ทางเจ้าของสถานที่ต้องรับผิดชอบ และแนะนำให้ทางลูกค้าปรึกษาทนายหากต้องการเอาเรื่องกับทางรีสอร์ต