ลุงจู่ๆ แน่นหน้าอก-หายใจไม่สะดวก รู้ต้นเหตุป้าน้ำตาไหล จากสิ่งที่ทำให้กินทุกเช้า

Home » ลุงจู่ๆ แน่นหน้าอก-หายใจไม่สะดวก รู้ต้นเหตุป้าน้ำตาไหล จากสิ่งที่ทำให้กินทุกเช้า
ลุงจู่ๆ แน่นหน้าอก-หายใจไม่สะดวก รู้ต้นเหตุป้าน้ำตาไหล จากสิ่งที่ทำให้กินทุกเช้า

คู่รักวัยเกษียณ กินไข่วันละอย่างน้อย 1 ฟอง รู้ผลตรวจร่างกายสามี ภรรยาแทบเป็นลม น้ำตาไหล “เป็นความผิดของฉันเอง..”

เว็บไซต์ Sohu รายงานว่า คุณลุงจางและคุณป้าหลี่ คู่รักวัยเกษียณในประเทศจีน ทั้งสองคนมักเดินเล่นด้วยกันทุกวัน เดินไปตลาดด้วยกัน ทำอาหารด้วยกัน ชีวิตของพวกเขามีความสุขและหวานชื่นมาก

ทั้งสองคนดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องอาหาร การรับประทานไข่เป็นหลักสำคัญของทั้งสองคน พวกเขายึดมั่นในหลักการนี้เสมอ “ทุกมื้ออาหารต้องมีไข่!”

“ไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่า อุดมไปด้วยสารอาหารและมีโปรตีนสูง กินแล้วอิ่มท้อง แถมยังช่วยเสริมพลังงานให้กับร่างกายด้วย!” คุณป้าหลี่มักพูดเช่นนี้ และไม่เคยหยุดแนะนำให้เพื่อนบ้านกินไข่

ดังนั้นในทุกเช้า คุณป้าหลี่จะต้มไข่ 2 ฟอง ให้ตัวเองและคุณลุงจางคนละฟองเป็นประจำไม่เคยขาด

ชีวิตควรจะดำเนินไปอย่างสงบสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณลุงจางเริ่มรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก

คุณลุงจางคิดว่าแค่ทน ๆ ไว้ก็คงหายเอง แต่คุณป้าหลี่ไม่กล้าประมาท ทันทีที่เห็นอาการ เธอจึงรีบพาคุณลุงจางไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจร่างกายทันที

เมื่อผลการตรวจออกมา แพทย์ก็ขมวดคิ้วแล้วบอกกับพวกเขาว่า “คุณลุงจางมีระดับไขมันในเลือดสูง และการทำงานของตับก็ผิดปกติ”

“เป็นไปได้ยังไง? คุณหมอ พวกเรากินอาหารที่มีประโยชน์มาก กินไข่ทุกวัน กินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนทุกวัน แล้วทำไมถึงมีปัญหาล่ะ?” คุณป้าหลี่รู้สึกตกใจ และไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เธอได้ยิน

แพทย์ส่ายหัวและขยับแว่นพูดอย่างจริงจังว่า “การกินไข่นั้นดีจริง แต่คุณรู้ไหมว่าควรกินวันละเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อายุมากอย่างคุณลุงจาง การกินไข่วันละฟองอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป”

คุณป้าหลี่ได้ยินดังนั้น ก็แทบจะเป็นลมในห้องตรวจ น้ำตาไหลเธอออกมาอย่างไม่ขาดสาย พึมพำกับตัวเองว่า “เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรให้เขากินไข่ทุกวันเลย!”

ปรากฎว่าถึงแม้ว่าการกินไข่จะดี แต่การกินมากเกินไป ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป

ไข่แดง 1 ฟอง มีคอเลสเตอรอลประมาณ 186 มิลลิกรัม ขณะที่ร่างกายเราควรได้รับคอเลสเตอรอลไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน

ซึ่งคุณลุงจางกินไข่วันละฟอง แถมเขายังชอบกินอาหารมัน ๆ นั่นหมายความว่าปริมาณคอเลสเตอรอลในแต่ละวันของเขาเกินมาตรฐานแล้ว!

แพทย์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เคยได้ยินไหม? ไข่แดงมีคอเลสเตอรอลค่อนข้างสูง ถ้ากินมากเกินไป ไตของเราก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยได้”

“ผู้สูงอายุมีกระบวนการเผาผลาญที่ช้า และความสามารถในการย่อยอาหารลดลง เมื่อบริโภคไข่มากเกินไปเป็นเวลานาน ร่างกายก็มีภาระในการย่อยอาหารและการเผาผลาญอยู่บ้าง”

“อย่างคุณลุงจางที่มีปัญหาการทำงานของตับ อาจจะเกี่ยวข้องกับการกินโปรตีนมากเกินไป”

คุณป้าหลี่ฟังไปน้ำตาหยดไป เริ่มรู้สึกเสียใจ “ฉันคิดว่ามันดีที่เขากินไข่ทุกวัน แต่กลับกลายเป็นว่าฉันเป็นคนที่ทำร้ายเขา!”

จริง ๆ แล้ว หลายคนก็เหมือนคุณป้าหลี่ ที่คิดว่าไข่เป็นแหล่งสารอาหารครบถ้วน กินยังไงก็ไม่ผิด แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น เราทุกคนรู้ว่าไข่มีโปรตีนคุณภาพดี แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ปริมาณและวิธีการรับประทาน

แน่นอนว่าแพทย์ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณป้าหลี่กลัว เพราะไข่ไม่เป็นพิษ ตราบใดที่รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไข่ก็ยังดีต่อร่างกาย

ปัญหาคือร่างกายของผู้สูงอายุกับคนหนุ่มสาวนั้นต่างกันไป การทำงานของตับและไตเริ่มเสื่อมลง และการได้รับสารอาหารเกินไปอาจทำให้ร่างกายรับภาระมากเกินไป

ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าโปรตีนที่มากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับไต โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีปัญหาการทำงานของไต หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญอยู่แล้ว

ผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการกินไข่ แพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่า สำหรับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี การกินไข่วันละฟองก็ไม่มีปัญหา

แต่ถ้าผู้สูงอายุมีปัญหาการทำงานของตับหรือไตไม่ค่อยดี ก็ต้องควบคุมปริมาณโปรตีนที่รับประทาน

พูดง่าย ๆ คือ ไข่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องห้ามโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ควรกินทุกวัน อาจจะกินวันเว้นวัน หรือกินแค่ครึ่งฟองของไข่แดง พร้อมกับการกินอาหารอื่น ๆ ที่เสริมสารอาหารให้ครบถ้วน

คุณป้าหลี่เมื่อได้ฟังแล้วก็เข้าใจทันที เริ่มคำนวณในใจอย่างเงียบ ๆ ว่าเธอให้ลุงจางกินไข่ไปกี่ฟองตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เธอรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็เห็นด้วยกับสิ่งที่แพทย์พูด หลังจากกลับบ้านก็ตัดสินใจวางแผนการรับประทานอาหารใหม่ให้สามีของเธอ กินไข่น้อยลง กินถั่วมากขึ้น และเพิ่มผักในมื้ออาหารด้วย!

โดยสรุปแล้ว ไข่เป็นอาหารที่ดี แต่ไม่ใช่สารอาหารที่สามารถทดแทนทุกอย่างได้ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ควรให้ความสำคัญกับการกินอาหารที่สมดุล ไข่กินได้ แต่ไม่ควรให้มันกลายเป็นอาหารที่ต้องกินทุกวัน

ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเหมือนลุงจาง ที่คิดว่ากำลังกินเพื่อบำรุงร่างกาย แต่จู่ ๆ มันก็สร้างปัญหาให้ตัวเองโดยไม่คาดคิด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ