ลีน่าจัง กราบขอโทษ แพรรี่ กระชากวิก รุนแรงไป แค่หยอกล้อ เอ็นดูเหมือนลูกสาว

กลายเป็นคลิปดราม่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อ ลีน่าจัง ไอดอลชื่อดัง ดึงวิกผม “แพรรี่” ไพรวัลย์ วรรณบุตร จนหลุด ในรายการของมดดำ เกิดการไลฟ์สดฟาดกันอย่างดุเดือด ถูกมองว่ารุนแรงไป ดูไม่ให้เกียรติกันและกัน

ล่าสุด ลีน่าจัง ได้ออกมาขอโทษ แพรรี่ ผ่านเฟซบุ๊ก คุยแหลก แดกดึก เผยว่า “แม่กราบขอโทษนะแพรรี่ คือแม่รักเหมือนลูกสาว ก็เลยหยอกเล่นเหมือนกับลูกสาว คิดว่าการไปดึงวิกผมออกเป็นการหยอกเล่นกับลูกสาว ถ้าหากแม่ทำแรงเกินไป แม่ขอโทษจริงๆ ไม่คิดว่าลูกสาวจะเสียใจขนาดนี้ การทำคอนเทนต์ของแม่ลีน่าอาจจะมองว่ารุนแรงไป เอฟซีหรือว่าแฟนเพจหรือแฟนคลับของแพรรี่อาจจะไม่พอใจ แม่กราบขออภัยจริงๆ ค่ะ นะอย่าโกรธแม่เลย รักลูกสาวเสมอค่ะ”

ในขณะเดียวกัน มดดำ ได้ยิงคำถามสิ่งที่ชาวเน็ตค้างคาใจว่า “ไม่ เขาบอกบางทีไม่ให้เกียรติเขาเลย เราก็เข้าใจเขานะ เขาบอกไปว่าแฟนเขา เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่การกระชากหัวเขามันรุนแรงเกินไป”

โดย ลีน่าจัง ได้ย้ำถึงเจตนาอีกครั้งว่า “ขอโทษจริงๆ ค่ะ แม่ไม่ได้มีเจตนาเลย รักแพรรี่มากเลยและก็ยินดีทุกครั้งกับแพรรี่ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แล้วที่หยอกล้อแฟนของแพรรี่ ก็เอ็นดูเด็กก็เลยหยอกล้อเล่นไปหน่อย แม่กราบขออภัยจริงๆ ค่ะ”

เท่านั้นไม่พอ มดดดำ ยังได้ถามเสริมไปอีกว่า เคยคิดจะไปหาหมอบ้างมั้ย ว่าอารมณ์เรารุนแรงหรือฮอร์โมนสวิง โดย ลีน่าจัง ตอบว่า “ไปตรวจเรื่องประสาทใช่ไหม จริงๆ มันเป็นคอนเทนต์นะ”

งานนี้ มดดำ เปรียบเทียบประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อสะท้อนบทเรียนการทำคอนเทนต์ที่เซ้นสิทีฟต่อความรู้สึกของผู้ชมไว้ว่า “ขอเล่าอะไรให้ฟังพี่ลีน่า เมื่อก่อนรายการแฉแต่เช้าเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว โคตรดังเลยเพราะว่าอะไรรู้ไหม การพูดด่าคน การพูดแรงๆ การพูดให้คนเสียใจ การพดให้คนรู้สึกว่าด้อยกว่าเรา การพูดให้มีการเลื่อมล้ำกันเกิดขึ้น หยาบ แรง เท่ากับ คนตรง

วันนี้เรายังอยู่บนโลกใบเดิม เมื่อก่อนมดดำเป็นเหมือนพี่ลีน่าเลย รู้สึกฉันต้องหยาบ ฉันต้องแรง ฉันต้องด่าคน ฉันถึงจะดัง วันนึงตัวเองเจอประสบการณ์ชีวิตคืออะไรรู้ไหม การอ่านข้อคอมเมนต์ มดดำนั่งอ่านคอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ วันนั้นอ่านไปน้ำตาไหลหมดเลยเพราะอะไรรู้ป่ะ ให้ทีมงานร้อยคนก็ไม่มีใครกล้ามดดำหรอก เพราะเดี๋ยวมดดำเทกอง

แต่ไอ้คอมเมนต์เหล่านั้นทุกคอมเมนต์ มึงเป็นกะเทยแก่ มึงอยู่ในยุคไดโนเสาร์ เสียงมึงก็แหบทำไมไม่ปรับตังเข้ากับโลกยุคใหม่ นั่งอ่านตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงหกโมงเช้า วันนึงคำตอบคืออะไรรู้ไหม เราอาศัยโลกของเด็กยุคใหม่อยู่แล้ว คือโลกของแพรรี่ที่เขาโตมาจากออนไลน์เราอาศัยอยู่แล้ว

สมัยเราแค่มีโทรศัพท์โทรเข้าโทรออก ถูกต้องมั้ย สมัยก่อนเราแค่มีแมสเสจถูกต้องไหม วันนี้เด็กพวกนี้เขาโตมาจากออนไลน์ เขาโตมาจากอินสตาแกรม เขาสั่งกาแฟผ่านแอปถูกป่ะ สมัยเราต้องขับรถไปซื้อกาแฟ เพราะฉะนั้นคือะไรคะ เรากำลังอาศัยอยู่ในยุคของเขาอยู่ เราต้องปรับตัวตามเขาไม่ใช่เขาปรับตัวตามเราแล้ว

วันนึงปุ๊บมดดำเจอประโยคๆ นึง เราลองเปลี่ยนสิพี่มดดำ เปลี่ยนเป็นคนที่เข้าใจโลก สองพี่มดดำลองเปลี่ยนเป็นคนที่เข้าใจว่า วันนี้มันไม่มีความสวยกว่า เก่งกว่า หล่อกว่า มันไม่มีคำว่าเปรียบเทียบ เพราะทุกคนเรากำลังเข้าสู่ยุคเสมอภาค ฉันใดฉันนั้น มันข้อดีของเราคือยังไงคะ ข้อดีของเราคือมันไม่มีเด็ก ไม่มีคนแก่ ไม่มีคนเด็ก ทุกคนจะเท่าเทียบหมด แม้กระทั่งเพศ วันนึงทุกอย่างคือความเท่าเทียม

เพราะฉะนั้นวันนี้ เออว่ะ ไอ้สิ่งที่เราเคยสำเร็จกันมาด้วยการด่า ไอ้การสำเร็จกันมาด้วยการแรง พ.ศ.นี้ เวลานี้ไม่ใช่แล้วว่ะ วันนี้เราต้องการยิ้มใส่กัน บางคนอาจจะบอกตอแหลก็ได้ แต่วันนี้มันคือโลกของที่ทุกคนใช้เวลาแค่ไม่เกินสิบห้าวินาที สมัยก่อนเราออกรายการเฟซบุ๊กไลฟ์ ยุคพวกเราน่าจะเป็นเฟซบุ๊กไลฟ์ เราต้องพูดยาวๆ แต่วันนี้ทุกคน โลกอยู่แค่ 15 วิ โลกกำลังบอกว่าเขาฟังเราแค่ 15 วินาที เพราะฉะนั้นวันนี้เรายังต้องอาศัย ยุคเขาอยู่

มดดำว่าพี่ลีน่าเป็นคนที่มีความรู้มากนะ อย่างเรื่องกฎหมายมดดำยอมรับ แต่วันนี้ไม่ใช่ตัวมดดำ ตัวแม่คนเดียวนะ ตัวมดดำเองก็กำลังอาศัยอยู่ในยุคของพวกเขา ที่เราไม่ชินชากันมาเลย ไม่รู้นะ อย่าหาว่าพูดแบบ ตัวเองเลยโดนทัวร์มาเยอะ แล้วทุกครั้งคนที่สอนเราได้มากที่สุด ไม่มีใครกล้าสอนมดดำเลย แม้กระทั่งพ่อ เพราะฉันโตมาด้วยตัวฉันเอง

เหมือนกันคุณก็รวยมาด้วยตัวคุณเอง แต่วันนึงวันนี้ค่ะ เมื่อก่อนเราต้องเรียนมหาลัยใช่ไหม เราต้องเรียนมัธยม ไม่ได้เรียน วันนี้ทุกคนที่ดูเราอยู่ ยิ่งมีคนไลก์เยอะ ยิ่งมีคนดูยอดวิวเยอะ พวกเขาคือโจทย์ที่จะตัดสินว่าเราจะไปต่อหรือพอแค่นี้ วันนี้ในระหว่างที่เรากำลังอัดรายการกันต่อ เขาก็ไลฟ์อยู่ เอาล่ะ ถือว่ามันเป็นบทเรียน”

ทั้งนี้ ลีน่าจัง ได้ทิ้งท้ายด้วยคำขอดทษอย่างใจจริง “แต่วันนี้ถ้าเราทำให้แพรรี่เสียใจขนาดนี้ แม่ลีน่ากราบขออภัยจริงๆ นะ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย แบบว่ารักเอ็นดูเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง”