ฤดูกาลพรีเมียร์ลีกก้าวล่วงมาจนถึงโค้งสุดท้าย ถ้าเป็นม้าแข่งคงเป็นช่วงสำคัญที่ใครมีทีเด็ดอะไรก็ต้องงัดออกมาสู้ให้หมดหน้าตัก
ภาพต่างๆค่อนข้างชัดเจนเกือบหมดแล้ว ยกเว้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกในอันดับ 3-4 และพื้นที่ ยูโรป้าลีก ใครจะช่วงชิงได้ท่ามกลางสภาวะที่ฝุ่นตลบไปหมด ส่วนอันดับ 1 กับ 2 คงต้องยกให้กับทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์
ทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาท้าทายบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าจะมีเหี่ยวปลายหรือไม่ แต่ “สุนัขจิ้งจอก” นั้นมีประสบการณ์มาแล้วจากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้นปีนี้พวกเขาน่าจะระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี ด้วยขุมกำลังที่ใหญ่พอตัว น่าจะทำให้มีลุ้นจบท็อปโฟร์ได้สำเร็จ
ส่วน “ขุนค้อน” ของเดวิด มอยส์ มาไกลแบบเกินคาดแล้ว ปลายอาจจะมีโรยๆลงไป หากสิ้นซีซั่นได้ไป ยูโรป้าลีก พวกเขาคงฉลองกันยกใหญ่
ผมมองว่าอันดับ 4 น่าจะเป็นวัดกันระหว่าง เชลซี ของ โทมัส ทูเคิ่ล กับ ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ถึงแม้กุนซือแชมป์เก่ารีบออกตัวแล้วว่า การคว้าที่ 4 ในปีนี้น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับ “หงส์แดง” ถึงแม้มีคะแนนตามหลังเจ้าของอันดับ 4 ล่าสุดอย่าง เชลซี อยู่เพียงแค่ 5 คะแนน
แต่หากลองซูมดูโปรแกรมการแข่งขันที่เหลืออยู่ของ ลิเวอร์พูล นั้น เจอหนักๆเพียงแค่สองนัดเท่านั้น คือบุกเยือนอาร์เซนอลในวันที่ 4 เมษายน และไปเล่นในรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1 พฤษภาคม
ส่วน “เดอะ บลูส์” มีคิวน่าหนักใจคือบุกไปเยือน แมนฯซิตี้ 8 พ.ค. และเปิดบ้านพบอาร์เซนอล 13 และ เลสเตอร์ 15 พฤษภาคม หนักกว่า “หงส์แดง” นิดๆ ดังนั้นจึงยังไม่เห็นความจำเป็นใดๆที่ คล็อปป์ จะต้องรีบออกมาโยนผ้า นอกเหนือจากว่าเขาพยายามลดความกดดันให้ลูกทีมเท่านั้น
พูดแล้วก็น่าเห็นใจกุนซือชาวเยอรมันที่ผลงานตกต่ำลงมาเพราะนักเตะเจ็บกันเยอะ ตอนนี้เล่นไป 29 นัดมี 46 คะแนน ต่อให้ชนะหมดทุกนัดที่เหลือยังทำได้เต็มที่แค่ 73 แต้มในซีซั่นนี้ เอาเข้าจริงแล้ว 70 จะถึงหรือไม่
เมื่อเทียบกับสองฤดูกาลที่ผ่านมา 99 และ 97 คะแนน ลดไปอย่างน้อยๆเกือบ 30 แต้ม น่าใจหายจริงๆ ในช่วงซัมเมอร์เขาคงต้องทำการบ้านหนักมาก
กลับมาที่เดิมพันอันดับ 4 สิ่งที่น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญสุดว่าใครจะคว้าไป คือการได้เข้ารอบลึกหรือไม่ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งตอนนี้ทั้ง เชลซี และ ลิเวอร์พูล พาเหรดเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเรียบร้อยแล้ว ใครที่ได้ฝ่าด่านเข้ารอบต่อไปได้อีก นั่นน่าจะทำให้ทั้งสมาธิและพลังงานถูกถ่ายเทไปยังถ้วยใหญ่ของยุโรป ผลงานในลีกต้องกระทบบ้างเป็นธรรมดา แถม “สิงโตน้ำเงินคราม” ยังมีภาระใน เอฟ.เอ.คัพ ลุ้นอยู่อีกถ้วยหนึ่งด้วย
ตอนนี้ผลงานของ “หงส์แดง” เริ่มขยับดีขึ้นบ้างแล้ว ดังนั้นแฟนๆคงต้องเอาใจช่วยให้ 9 นัดสุดท้าย พวกเขาดึงวิญญาณแชมป์เก่ากลับมาให้ได้ และคิดเสียว่าทุกนัดเป็นบอลถ้วยต้องเอาชนะให้ได้ทุกเกม
งานนี้น่าจะเป็นหนังชีวิตที่ต้องดูกันยาวไปถึงช่วงท้ายฤดูกาล อย่าเพิ่งรีบถอดใจ คำตอบอยู่ที่ “มุมแดง”หรือ“มุมน้ำเงิน” จะเป็น คล็อปป์ หรือเยอรมันรุ่นน้องของเขาอย่าง ทูเคิ่ล ได้เฮ อดใจรอดูกันอีกไม่นานครับ.
9 นัดสุดท้ายของ เชลซี 9 นัดสุดท้ายของลิเวอร์พูล
เมษายน เมษายน
3 เวสต์บรอมฯ (H) 4 อาร์เซน่อล (A)
10 คริสตัล พาเลซ (A) 10 แอสตัน วิลล่า (H)
17 ไบรท์ตัน (H) 17 ลีดส์ ยูไนเต็ด (A)
24 เวสต์แฮม (A) 24 นิวคาสเซิ่ล (H)
พฤษภาคม พฤษภาคม
1 ฟูแล่ม (H) 1 แมนฯ ยูไนเต็ด (A)
8 แมนฯ ซิตี้ (A) 8 เซาธ์แฮมป์ตัน (H)
13 อาร์เซน่อล (H) 12 เวสต์บรอมวิช (A)
15 เลสเตอร์ ซิตี้ (H) 15 เบิร์นลี่ย์ (A)
23 แอสตัน วิลล่า (A) 23 คริสตัล พาเลซ (H)