ตรัง ปีนี้อากาศร้อนจัด ไฉนยอดขายแอร์ลดลงน่าใจหาย ต่างจากยุคก่อน ติดตั้งแทบไม่ทัน เหตุประชาชนไม่มีตังค์ ยังกังวลค่าไฟสูงขึ้นมาก ยอมซื้อพัดลมใช้เป่าไล่ลมร้อนแทน
3 เม.ย. 66 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนของปีนี้ ซึ่งมีสภาพอากาศร้อนจัด โดยปกติที่ผ่านมาเมื่อถึงช่วงหน้าร้อน ความต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความเย็น ทั้งพัดลม พัดลมแอร์ พัดลมไอน้ำ และแอร์ จะพุ่งสูงขึ้นมาก
จากการสอบถามร้านค้าจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าพบว่า ปีนี้บรรยากาศเงียบเหงาเหมือนกันหมดทุกร้าน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี อันเป็นผลพวงมาจากสถานการณ์โควิด ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดประชาชนต้องพบกับค่าครองชีพสูง ซึ่งยังคงเป็นปัญหาหนักทุกครัวเรือน บวกด้วยปัญหาค่าพลังงานแพง ค่า FTไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และเข้าสู่ช่วงปิดกรีด ยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนหนัก
นายสิทธิเดช เข็มเพชรเจษฎา ผู้บริหารร้านสมบูรณ์การไฟฟ้า ซึ่งจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในเขตเทศบาลนครตรัง บอกว่า การจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนปีนี้กระทบหนัก ทำยอดหายไปกว่า 50% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด เมื่อปี 2563
โดยเกิดจากหลายสภาพปัญหาที่รุมเร้า อย่างแรกคือ คนไม่มีตังค์ คนอยากได้แต่ไม่มีกำลังซื้อ เพียงแค่การผ่อนชำระงวดแรก ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก และตลอดปี 2565 ยางก็มีราคาไม่ดี และฝนตกหนักติดต่อกัน จนชาวบ้านแทบไม่ได้กรีดยาง และมาหน้าแล้งนี้ก็เข้าสู่ช่วงฤดูปิดกรีด ก็ไม่ได้กรีดยางอีก ก็เลยทำให้คนไม่มีเงิน
ประกอบกับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งข้าวสาร น้ำมัน ก็ขึ้นราคา จึงส่งผลกระทบทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ถ้าลูกค้าที่จะมาซื้อของที่ร้านพบว่า จะดูที่ราคาเป็นหลัก ซื้อที่ราคาถูกเป็นหลักไว้ก่อน กับดูที่ความคุ้มค่าที่จะเอาไป เช่น หม้อหุงข้าว จะดูราคา 500-600 บาท แต่ว่าจะเอาลิตรที่มากกว่า
ส่วนแอร์ก็เหมือนกัน ซึ่งปีนี้อากาศร้อนมาก แต่กลับกลายเป็นว่า คนมาเลือกซื้อพัดลมมากกว่า เพราะคนไม่มีตังค์ผ่อนซื้อแอร์ ส่วนพัดลมลงทุนไม่กี่บาท แค่หลักร้อยก็ได้ใช้แล้ว ส่วนแอร์ต้องลงทุนหลักพันหลักหมื่น และแอร์คนก็คิดถึงค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นด้วย
โดยเดือนที่แล้วมีหลายๆ บ้านบ่นกันว่า ค่าไฟจากที่ตัวเองใช้อยู่ประมาณ 2-3 พันบาท แต่ขึ้นมาประมาณ 4-5 พันบาท คนบ่นไม่มีตังค์จ่ายค่าไฟ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย นี่คือสภาพที่พบเจออยู่ในขณะนี้ นอกจากนั้นเงินในจังหวัดตรัง ก็หมุนเวียนเฉพาะในจังหวัดตรัง ไม่ได้มีเงินจากต่างจังหวัดเข้ามา ทั้งภาคการลงทุน และภาคการท่องเที่ยว ทำให้ไม่มีเงินสะพัดในพื้นที่ สภาพการค้าขายจึงเงียบกันทั้งจังหวัด
ไม่เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเดียว ทำให้แอร์ขายได้เดือนละ 2-3 ตัวเท่านั้น จากเมื่อก่อนที่ติดตั้งกันแทบไม่ทัน แม้จะลดราคาและให้ผ่อนได้ระยะยาวถึง 15 เดือนแล้ว ซึ่งความจริงแอร์จะต้องขึ้นราคาด้วยซ้ำ เพราะว่าต้นทุนการผลิตแอร์เพิ่มขึ้น
แต่ทางร้านก็ไม่กล้าขึ้นราคา พยายามขายยืนราคาเดิม และยอมปรับกลยุทธลดราคาลงมาแล้ว ก็ยังขายยาก หรือขนาดของราคาหลักร้อย คนซื้อก็ยังคิดแล้วคิดอีก ยังต่อราคา ซึ่งทางร้านก็เข้าใจลูกค้า ทั้งๆ ที่กำไรก็ไม่มีเท่าไหร่