รู้จัก "พระซุ้มกอ" พระเครื่องเบญจภาคี กรุกำแพงเพชร พุทธคุณเลื่องลือ "มีกูไว้ไม่จน"

Home » รู้จัก "พระซุ้มกอ" พระเครื่องเบญจภาคี กรุกำแพงเพชร พุทธคุณเลื่องลือ "มีกูไว้ไม่จน"
รู้จัก "พระซุ้มกอ" พระเครื่องเบญจภาคี กรุกำแพงเพชร พุทธคุณเลื่องลือ "มีกูไว้ไม่จน"

รู้จัก “พระซุ้มกอ” เรียกชื่อนี้เพราะโค้งเหมือน ก.ไก่ พระเครื่องเบญจภาคีกรุกำแพงเพชร พุทธคุณเลื่องลือ “มีกูไว้ไม่จน”

พระซุ้มกอ จัดเป็นพระเครื่องอันดับหนึ่งของจังหวัดกำแพงแพชร ทั้งในด้านพุทธคุณ และพุทธศิลป์ ถูกขุดค้นพบอยู่ตามบริเวณ วัดพระบรมธาตุ วัดพิกุล วัดฤาษี และลานทุ่งเศรษฐี

พระกำแพงซุ้มกอ มีตำนานการสร้างปรากฎชัดเจนบนลานจารึกแผ่นเงิน ในกรุพระเจดีย์ วัดพระบรมธาตุ เมืองนครชุม เมื่อปี พ.ศ.2392 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ได้พบศิลาจารึกที่วัดเสด็จ จึงทราบว่ามีพระเจดีย์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ฝั่งเมืองนครชุมเก่า ท่านจึงชักชวนเจ้าเมืองทำการสำรวจและพบเจดีย์ 3 องค์ ซึ่งชำรุดมาก จึงได้รื้อพระเจดีย์และพบพระเครื่องซุ้มกอจำนวนมาก พระกำแพงซุ้มกอเป็นพระศิลปะสุโขทัยยุคต้น สร้างประมาณ พ.ศ.1900

จากหลักฐานที่พบ สันนิษฐานได้ว่า พระกำแพงซุ้มกอมีอายุประมาณ 700-800 ปี สร้างในสมัยสุโขทัยโดยพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อครั้งเป็นผู้ปกครองเมืองชากังราว (กำแพงเพชรในปัจจุบัน) ในฐานะเมืองหน้าด่านที่สำคัญของสุโขทัย ก่อนที่จะได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์สุโขทัย

โดยฤาษีผู้มีฤทธิ์ 3 ตน คือ ฤาษีพิราลัย ฤาษีตาไฟ และฤาษีตาวัว เป็นผู้นำในการสร้าง พระกำแพงซุ้มกอ เป็นพระเนื้อดินผสมว่าน 108 และเกสรดอกไม้ นอกจากนั้นยังมีพระกำแพงซุ้มกอที่ทำจากเนื้อชินเงิน ลักษณะขององค์พระ คือ พระพุทธรูปปางสมาธิ มีลวดลายกนกอยู่ด้านข้างขององค์พระ ส่วนของขอบพิมพ์พระจะโค้งมนคล้ายตัวอักษร ก.ไก่ จึงถูกเรียกว่า “พระซุ้มกอ”

ฐานข้อมูลท้องถิ่น จังหวัดกำแพงเพชร-ตาก

ในครั้งนั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ท่านเห็นว่าเศษพระที่แตกหักนั้นยังมีพุทธคุณอยู่ท่านจึงนำกลับมายังวัดระฆังจำนวนหนึ่งพร้อมกับเศษอิฐและเศษหิน และบันทึกใบลานเก่าแก่ที่ได้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการสร้างพระสกุลกำแพงเพชร จึงนำเอาเศษพระกำแพงที่แตกหักมาบดเป็นส่วนผสมในการสร้างพระสมเด็จของท่านจนขึ้นชื่อโด่งดังไปทั่วประเทศ เพราะท่านได้สร้างตามสูตรการสร้างพระซุ้มกอกำแพงเพชร ดังนั้นจะเห็นได้ว่าพระสมเด็จในยุคแรกๆ จะมีลักษณะโค้งมนเหมือนกับพระซุ้มกอเพราะว่าพระซุ้มกอกำแพงเพชรเป็นต้นแบบของพระสมเด็จวัดระฆังนั่นเอง 

พระกำแพงซุ้มกอ มีพิมพ์นิยม 4 พิมพ์ ดังนี้

  1. พิมพ์ใหญ่มีกนก
  2. พิมพ์ใหญ่ไม่มีกนก
  3. พิมพ์กลาง
  4. พิมพ์ขนมเปี๊ยะ

พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีลายกนกเป็นพิมพ์ที่พบเห็นแพร่หลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่ต้องการสูงสุด ส่วนพระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ไม่มีกนกหรือ “พระซุ้มกอดำ” มีความหายากและราคาสูงมาก

พุทธคุณพระกำแพงซุ้มกอ มีครบเครื่องทั้ง เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภ จนมีคำพูดที่พูดติดปากกันมาแต่โบราณว่า “มีกูไว้แล้วไม่จน” หมายถึงโชคลาภ เมตตามหานิยม ใครมีไว้ครอบครองจะร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง ทำให้พระซุ้มกอเป็นที่ต้องการและมีราคาสูง พระซุ้มกอจึงได้รับการจัดให้อยู่ในชุดเบญจภาคี และเป็นหนึ่งในจักรพรรดิแห่งวงการพระเครื่อง

 รู้จัก สุดยอดพระเครื่อง “เบญจภาคี” เหตุผลที่ต้องเป็น 5 องค์นี้ ใครกำหนด?

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ