วันที่ 21 ส.ค. 2566 พ.ต.ต.สุขสันต์ คงจุ้ย สว.สอบสวน สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รับแจ้งจาก รพ.เหนือคลอง ว่ามีคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย มารับการรักษาที่ รพ. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่ห้องฉุกเฉินพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายภาณุเดช อายุ 29 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณกลางอก ทะลุปอด 1 แผล ส่วนอีกคนทราบชื่อคือ นายพุฒิพงศ์ อายุ 31 ปี พี่ชายคนตาย ได้รับบาดเจ็บถูกแทงเข้าที่แขนขวา 1 แผล สอบถามเบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดที่หน้าร้านขายของชำ ต.โคกยาง

ส่วนคนก่อเหตุทราบชื่อคือนายเอก(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หลังก่อเหตุเดินทางไปรอมอบตัวที่ สภ.เหนือคลอง พร้อมอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม. ตำรวจจึงคุมตัวไว้สอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบหน้าร้านชำที่เกิดเหตุ พบหยดเลือดของผู้ตายและคนเจ็บ กระจายอยู่บนพื้นหน้าร้าน เมื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้าน พบว่าเหตุการณ์เกิดเมื่อเวลา 07.30 น. ช่วงเกิดเหตุผู้ต้องหาคือนายเอก(นามสมมุติ) ขี่รถ จยย.มาจอดที่หน้าร้านขายของชำ โดยมีน้องสาววัย 12 ปี สวมชุดนักเรียนนั่งซ้อนท้ายมา

เมื่อมาถึงร้าน น้องสาวลงจากรถเดินเข้าไปในร้านชำ จากนั้นคนเจ็บ และคนตาย ขี่รถ จยย.ตามมาด้านหลัง เมื่อมาถึงหน้าร้าน คนตายที่นั่งซ้อนท้าย ลงจากรถเดินมาที่นายเอก(นามสมมุติ) แล้วสาวหมัดใส่ทันทีจากด้านหลัง นายเอก(นามสมมุติ) เมื่อถูกต่อยก็เอื้อมมือไปหยิบมีดที่ตะกร้าหน้ารถ ลงมาแทงใส่ทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะกอดรัดกัน

คนเจ็บจึงลงจากรถมาช่วยกันรุมต่อยนายเอก(นามสมมุติ) ด้วย จนถูกมีดแทงเข้าที่แขนไปด้วยอีกคน ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกัน คนเจ็บคนตายขี่รถ จยย.หนีออกจากจุดเกิดเหตุไป อย่างไรก็ตามตำรวจจะสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมกับพยานอีกครั้ง

ส่วนศพมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดโคกยาง โดยญาติผู้ตายปฏิเสธจะให้ข้อมูลใดๆ ผู้สื่อข่าวสอบถามนายจตุรวิทย์ นวลศรี ผญบ.ที่เกิดเหตุ และเป็นคนพาตัวผู้ต้องหามามอบตัว เผยว่า ช่วงเช้าตนรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายกันได้รับบาดเจ็บที่หน้าร้านชำ จึงเดินทางไปดู ก็ไม่พบทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว

แต่สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายเอก(นามสมมุติ) กำลังขี่รถจะพาน้องสาวไปส่งโรงเรียน แล้วมาจอดแวะให้น้องสาวลงไปแลกเงินที่ร้านชำ จังหวะนั้นฝ่ายคนเจ็บและคนตาย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน ขี่รถตามมาก่อนจะเข้าไปรุมทำร้ายตามภาพในกล้องวงจรปิด

ซึ่งจากการสอบถามสาเหตุ ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน แล้วมีปากเสียงกันบ่อย ก่อนหน้าเกิดเหตุ 1 วัน ทั้ง 2 ฝ่ายมีปากเสียงกันอีก โดยฝ่ายคนตายไปพูดอาฆาตผู้ต้องหาไว้ว่า อย่าออกจากบ้าน ถ้าออกจากบ้านกูเอามึงตาย จนรุ่งเช้ามาจึงเกิดเหตุดังกล่าว

ซึ่งตามปกติผู้ต้องหาเป็นเด็กนิสัยดี เรียนจบ ม.3 ออกมาช่วยทำงานที่บ้าน โดยจะทำสวน และรับจ้างทั่วไป

ส่วนฝ่ายคนตาย และคนเจ็บ 2 พี่น้องเป็นญาติห่างๆ ของตนเอง ค่อนข้างจะมีนิสัยอันธพาล ทำตัวเป็นขาใหญ่ในหมู่บ้าน และชอบเสพยาเสพติดเป็นประจำ ชอบก่อเรื่องไปเรื่อย จึงอยากขอให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินผู้ต้องหา ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย เพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน