“เมื่อเอาคนบ้าอุลตร้าแมนตั้งแต่เด็ก มาทำหนังอุลตร้าแมน นี่คือผลลัพทธ์ที่ได้” คงจะเป็นประโยคสั้นที่นิยามความสนุกของ ชิน อุลตร้าแมน (Shin Ultraman)ได้แบบกระชับเข้าใจในทันที หลายคนที่เป็นแฟน อุลตร้าแมนก็คงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนอกเสียจากการปรากฏตัวของอลุตร้าแมนและออกมาสู้กับสัตว์ประหลาด โดยการใช้เทคนิคพิเศษที่ทันสมัย แต่อีกหลายคนที่เป็นแฟนอุลตร้าแมนและรู้จักฝีไม้ลายมือของ ฮิเดอากิ อันโน๊ะ
- รู้ไว้ให้ขนลุก! บิน ฟุรุยะ ผู้สวมใส่ชุดยาง อุลตร้าแมน เมื่อ 55 ปีก่อนมารับบทเดิมใน SHIN ULTRAMAN
- ตัวอย่างใหม่ SHIN ULTRAMAN ปลุกตำนานฮีโร่ร่างยักษ์ ในวาระครบรอบ 55 ปี อุลตร้าแมน
- เร็วระดับUltra! SHIN ULTRAMAN รอบพิเศษเต็มยันแถวหน้า สาวกเด็กโตแห่จองบัตร ไปย้อนวันวาน
ก็จะมีความคาดหวังไปในเรื่องของมูทโทนที่จริงจังเข้มข้น การเมืองหนักๆ แบบผลงานที่ผ่านมาอย่าง ชิน ก็อตซิลล่า ( Shin Godzilla) เมื่อปี 2016 ซึ่งสำหรับ Shin Ultraman นั้นถือว่าอยู่ตรงกลางของความต้องการจากแฟนๆทุกเพศทุกวัย หากใครอยากเห็นอุลตร้าแมนสู้เยอะๆ ก็จะได้สมใจอยาก หากใครอยากได้แนวการเมือง ก็จิกกัดอยู่ตลอดทั้งเรื่องถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้มข้นอะไรมากเท่า Shin Godzilla เพราะคาดว่าในส่วนซีเรียสจริงจังแนวการเมืองลึกๆ ได้ถูกเล่าผ่าน Shin Godzilla ไปแล้ว ทำให้ใน Shin Ultraman จึงมาแนว Bad Joke ตลกร้าย ตลกหน้าตายแบบฮาครื้น ของคนหน้างาน เสียเป็นส่วนใหญ่แต่บอกเลยว่า เจ็บแสบอยู่พอสมควรใยประเด็นนี้ ด้านเนื้อการหลักนั้นจะเป็นการเหมือนนำสัตว์ประหลาดจาก ตอนที่ 3 , 9 , 18 , 33 และ 39 มาร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียว
ซึ่งมันประเด็นนี้เองก็ทำให้เนื้อเรื่องรู้สึกไม่ประติดประต่อกัน เพราะ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากสักพักสัตว์ประหลาด สักพักเอเลี่ยนเพื่อให้อุลตร้าแมนได้มีแอร์ไทม์เยอะๆ (หากจะมองว่าเป็นข้อด้อยก็ไม่ผิด)โดยการนำตอนต่างๆของอุลตร้าแมน ฉบับ 1966 มานั้นก็จะรวมถึงการนำฉากสู้มาปรับใช้ด้วยซึ่งหากใครจำได้ก็จะรู้เลยว่าเป็นการเคารพต้นฉบับแบบสุดๆ โดยเฉพาะในด้านของซาวด์ประกอบทั้งดนตรีและเสียงแอมเบียนต์ อย่างโทรศัพท์ดัง ระเบิด เสียงสัตว์ประหลาด การยิงลำแสง ก็จัดได้ว่าหยิบมาแทบทั้งยวง จนพูดได้ว่า Shin Ultraman คือมีภาพสมัยใหม่แบบยุคเรวะ แต่ซาวด์เป็นของยุคโชวะ แต่ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นการตีความใหม่ของอุลตร้าแมนจริงๆ บางสิ่งที่เรารู้มาจะถูเปลี่ยนแปลงไปในเรื่องนี้ให้เข้ากับยุคสมัย และการเสพภาพยนตร์ของผู้คนที่เปลี่ยนไป
อีกส่วนหนึ่งที่ต้องพูดถึงเลยก็คือฉาก โรแมนติก แต่เป็นแนวโรแมนติกแบบ “เฟื่อน” ร่วมงานของคู่พระนางแม้มีไม่มายมายนักแต่ก็สัมผัสได้ ซึ่งจริงๆแล้ว โรแมนติก ที่ว่าอาจดีความได้ว่าเป็นความรักของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีต่อแฟนๆทุกเพศทุกวัยเลยก็เป็นได้
ขอบคุณภาพ @shin_ultraman
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY