
JBL เป็นอีกผู้ผลิตเครื่องเสียงทั้งหูฟังที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เน้นเบสที่โดดเด่น แต่สำหรับในยุคปี 2025 กับหูฟังเรือธงอย่าง JBL Tour Pro 3 ใหม่ล่าสุดกันครับ
ดีไซน์ของ JBL Tour Pro 3
เริ่มต้นกับดีไซน์ของ JBL Tour Pro 3 จะมีขนาดหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิมที่ 1.57 นิ้ว รองรับระบบ Touch Screen พร้อมกับสั่งงานหูฟังได้ง่ายเช่นการเล่นเพลง, หยุดเพลง, ปรับรูปแบบ ANC, ปรับจุกหูฟังได้ 2 แบบ และรวมไปถึงเปลี่ยน Wallpaper เช่นเดียวกัน
และนอกจากนี้ยังมี USB-C ด้านล่าง และมีปุ่ม Pairing หูฟัง นอกจากนี้ด้านหลังจะมีโลโก้รุ่น รองรับการใช้ชาร์จไฟไร้สายด้วยกัน
เมื่อเปิดฝาหูฟังพบว่าจะพบกับหูฟังไร้สาย โดยรอบนี้จะมาพร้อมกับรูปทรงที่มีขนาดปานกลาง และมีการเปลี่ยนจุกได้ทั้งแบบซิลิโคน และ แบบยาง เพื่อความสะดวกของแต่ละคน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพร้อมกับ ไมโครโฟนทั้งหมด
ฟีเจอร์เด่นที่ควรใช้งาน
สำหรับฟีเจอร์เด่นของ JBL Tour Pro 3 จะมาฟีเจอร์ที่พัฒนาใหม่ดังนี้
- คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res: JBL Tour Pro 3 มาพร้อมไดรเวอร์คู่ในเอียร์บัดแต่ละข้าง ไดรเวอร์แบบบาลานซ์อาร์เมเจอร์จะควบคุมเสียงสูง ในขณะที่ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. จะมอบเสียงเบสที่ทรงพลัง นอกจากนี้ยังรองรับเสียงความละเอียดสูงแบบไร้สายด้วย LDAC ซึ่งเป็นตัวแปลงสัญญาณเสียงความละเอียดสูง 24 บิตของ Android ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
- เคสชาร์จอัจฉริยะพร้อมหน้าจอสัมผัส: JBL Tour Pro 3 มาพร้อมเคสชาร์จที่ออกแบบใหม่พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 1.57 นิ้ว ช่วยให้คุณควบคุมและเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมา
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 3: มาพร้อมเทคโนโลยี Bluetooth 5.3 เพื่อการเชื่อมต่อที่เสถียรและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ True Adaptive Noise Cancelling: ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณมีสมาธิกับเสียงเพลงได้มากขึ้น
- ไมโครโฟน 6 ตัวพร้อม AI Algorithm: ให้เสียงสนทนาที่คมชัด ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดที่คมชัดเป็นต้น
ความรู้สึกในการทดลองฟังเสียง
เมื่อทดลองใช้งานพบว่า เสียงการฟังเพลงจะมีเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับเบสที่กระชับ และยังมีเสียงแหลมกำลังเหมาะ แต่ทั้งนี้สามารถปรับระดับได้ผ่าน JBL Headphone Application และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเมื่อทดลองใช้งานทั้งการพูดสาย หรือจะใช้ผ่าน Application Zoom เป็นต้น
แถมยังมีฟีเจอร์ระบบเสียงแบบ 360 รอบทิศทางและยังสามารถใช้งานกับ Auracast ทำให้สามารถแชร์เสียงได้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับได้เช่นเดียวกัน
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
JBL Tour Pro 3 สามารถ ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 10 ชั่วโมง และรวม 40 ชั่วโมงเมื่อใช้เคสชาร์จ รองรับการชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง รองรับการชาร์จไฟได้ทั้งไร้สายและเสียบสายปกติ
สรุปหลังลอง JBL Tour Pro 3
หลังจากที่เราได้ทดลองมาสักพักใหญ่ต้องบอกว่า JBL Tour Pro 3 เป็นหูฟังเรือธงที่เสียงดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจน แถมยังสั่งงานได้อย่างดีด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และยังรองรับการใช้งานผ่าน USB-C เสียบกับเครื่องบินแล้วใช้งานได้เลย ถือว่าเป็นอีกหูฟังที่เป็นแบบไร้สายที่ทำได้ ด้วยราคา 11,500 บาท อาจจะสูงไปหน่อย แต่ถ้าใครเป็นคนที่อยากได้หูฟังที่แตกต่าง และต้องการควบควบครนทั้งการใช้ฟังเพลงและโทร นี่เป็นอีกทางเลือกที่ดีครับ