สวัสดีครับ!!! กลับมาพบกับพวกเราทีมงาน Sanook! Hitech กันอีกครั้ง สำหรับบทความนี้เราได้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการมารีวิวและเล่าให้ฟังกันอีกแล้ว

สำหรับเจ้าผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังพูดถึงคือสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ยอย่าง HUAWEI Watch 3 ที่มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่ได้ต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าได้ดีเลยทีเดียว และพิเศษคือในรุ่นนี้เป็นสมาร์ทวอทช์สองรุ่นแรกของบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS นั้นเองครับ (HUAWEI Watch 3 และ Watch 3 Pro )

โดย HUAWEI Watch 3 มีให้เลือกซื้อทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ รุ่น Active ใช้สายนาฬิกาเป็นยาง, รุ่น Classic ใช้สายเป็นแบบหนัง, รุ่น Elite ใช้สายเป็นแบบโลหะ และรุ่น Classic ที่ใช้สายถักทอพิเศษจากกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี

สรุปคุณสมบัติของ HUAWEI WATCH 3

• กรอบนาฬิกา : 46.2 มม × 46.2 มม × 12.15 มม. (ไม่รวมเซ็นเซอร์) วัสดุ Stainless steel และ ceramic
• น้ำหนัก : ประมาณ 54 กรัม (ไม่รวมสายรัดข้อมือ)
• หน้าจอ : AMOLED 1.43 นิ้ว 466×466 พิกเซล PPI 326
• ROM ภายใน : 16 GB
• RAM ภายใน 2 GB
• ตัวเรือน : สแตนเลส + เซรามิก
• วัสดุสายนาฬิกา : รุ่น Active Edition: Fluoroelastomer, รุ่น Classic Edition: Leather
• ปุ่มกด : ปุ่มแบบหมุนได้
• การเชื่อมต่อ : บลูทูธ: 2.4 GHz รองรับ BT5.2 และ BR+BLE
• เซ็นเซอร์ : บลูทูธ: 2.4 GHz รองรับ BT5.2 และ BR+BLE Wifi: รองรับ (2.4 GHz เท่านั้น) NFC: รองรับ
• ประเภทแบตเตอรี่ : Built-in lithium-ion polymer battery
• ความจุแบตเตอรี่ : 450 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 3 วัน
• เทคโนโลยีชาร์จ : ชาร์จไร้สาย
• มาตรฐานการกันน้ำ : 5ATM 
• ระบบปฏิบัติการที่รองรับ : Android 6.0 หรือสูงกว่า, iOS 9.0 หรือสูงกว่า   

อุปกรณ์ภายในกล่อง    

• ตัวเครื่องนาฬิกา HUAWEI WATCH 3
• แท่นชาร์จพร้อมสายเคเบิล
• คู่มือการใช้งาน
• ข้อมูลความปลอดภัย
• ใบรับประกันสินค้า    

หน้าตาและดีไซน์ของ HUAWEI WATCH 3 Series สวยหรูคลาสสิก ลงตัวทุกสไตล์ การดีไซน์เพื่อการใช้งานหลากหลายกิจกรรม

HUAWEI WATCH  เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของ HUAWEI ครับ สำหรับ HUAWEI WATCH ที่เราได้มาทดลองเล่นกันในรอบนี้เป็นรุ่น HUAWEI Watch 3 รุ่นธรรมดาที่มาพร้อมกับหน้าปัดไร้ขอบดีไซน์กลมหน้าจอแบบ OLED ขนาด 1.43 นิ้ว มิลลิเมตร 466×466 พิกเซล PPI 326

อย่างที่บอกไปแล้วครับว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED เพราะฉะนั้นหากต้องนำไปใช้งานในพื้นที่แสงจ้า HUAWEI WATCH 3  ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

ตัวเรือนใช้วัสดุวัสดุ Stainless steel และ ceramic มีขนาดที่ 46.2 มม × 46.2 มม × 12.15 มม. (ไม่รวมเซ็นเซอร์) มิลลิเมตร และน้ำหนักประมาณ 54 กรัม (ไม่รวมสายรัดข้อมือ)(รุ่นธรรมดาว่าสวยแล้วนะแต่รุ่น HUAWEI WATCH 3 Active Edition สวยขึ้นไปอีก) 

ตัวเครื่องด้านขวาเป็นตำแหน่งของปุ่มสั่งงานประกอบไปด้วยเม็ดมะยมแบบที่หมุนได้เพื่อการสั่งงานที่แม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเลื่อนสั่งควบคุมตัวนาฬิกาถัดลงมาหน่อยเป็นลำโพงเพื่อใช้ในการสนทนา

ต่อมาเป็นตัวเครื่องด้านซ้ายไม่มีปุ่มทำงานใด ๆ ครับ แต่ถัดลงมาเราจะมองเป็นส่วนของช่องของไมโครโฟนอย่างชัดเจน (เดี๋ยวท้ายบทความผมจะมาเล่าให้ฟังว่าพอได้ใช้งานคุยสายผ่านสมาร์ทวอทช์มันใช้งานได้ดีแค่ไหนกัน?)

ด้านล่างตัวเรือนของ HUAWEI Watch 3 จะเป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่เอาไว้ใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด อุณหภูมิของผิวหนัง ค่าความเครียด รวมถึงคุณภาพการหลับนอน

• เซ็นเซอร์อัตราเร่ง
• เซ็นเซอร์ไจโร
• เซ็นเซอร์ภูมิศาสตร์
• เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล
• เซ็นเซอร์วัดแสง
• เซ็นเซอร์ความดันบรรยากาศ
• เซ็นเซอร์อุณหภูมิ

และจุดชาร์จแบตเตอรี่ที่เป็นแบบแม่เหล็กเพียงแค่คุณวางก็สามารถชาร์จไฟได้ทันทีสามารถชาร์จแบบไร้สายทำงานกับแท่นชาร์จแม่เหล็ก ซึ่งในรุ่นนี้รองรับการชาร์จไร้สายและเทคโนโลยีชาร์จเร็วด้วยครับ

ส่วนของสายแน่นอนว่ารุ่นนี้โดนดีไซน์มาให้เป็นมากกว่าสมาร์ทวอทช์แน่นอน ดีไซน์สุดคลาสสิก ยามสวมใส่สวยเท่เหมือนนาฬิกาปกติ ทำให้คุณสามารถใส่ได้ทั้งงานทางการและไม่เป็นทางการ สายนาฬิกาหนังแท้สุดพรีเมียมหรือรุ่น Active Edition ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตเหมาะกับสายแอคทีฟอย่างเรา

HUAWEI WATCH 3 มาพร้อมกับการกันน้ำที่ระดับ 5 ATM

อุปกรณ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานของระดับ 5 ATM คือมีระดับการกันน้ำ 50 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งหมายความว่าอาจใช้สำหรับกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือมหาสมุทร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้สำหรับการดำน้ำลึก สกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูง หรือการจมใต้น้ำที่ระดับความลึกมากๆ

งานชาร์จที่เลอค่าได้ทั้งแบบใช้สายและ Wireless Charge ใช้งานทั่วไปต่อเนื่องนานสูงสุด 5 วัน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

เลิกห่วงเรื่องแบตเตอรี HUAWEI WATCH 3 และ HUAWEI WATCH 3 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ 450 mAh และ 790 mAh ตามลำดับ สามารถใช้งานต่อเนื่องในโหมด Smart ได้นาน 3 วันและ 5 วัน ตามลำดับ รองรับการชาร์จไร้สายและเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาทีจะสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง ดังนั้นหมดห่วงและค่อยเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ได้ไปได้เลยครับ 

แต่ในชีวิตจริงแล้ว พบว่า มันค่อนข้างที่จะสั้นไปเมื่อเทียบกับ Huawei Watch GT2 ที่จัดว่าเป็น Smart Watch ที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน

รองรับการชาร์จแบบ Reverse Charging โดยแตะ HUAWEI WATCH 3 Series เข้ากับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยที่รองรับการชาร์จแบบเดียวกัน เพื่อรับพลังงานจากสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องพึ่งแท่นชาร์จ

และที่สำคัญด้วยความที่ในรุ่นนี้พร้อมกับความสามารถเทคโนโลยีชาร์จชาร์จไร้สาย ดังนั้นลืมเรื่องการชาร์จทิ้งไว้หลายๆ ชั่วโมงไปได้เลย เพราะสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ได้แบบ Reverse Charging ของค่ายไหนก็ได้

หากสั่งงานผ่านหน้าปัดของสมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH 3 ก็มีฟีเจอร์พื้นฐานให้เรียกใช้งานครบครัน แต่หากคุณอยากอ่านข้อมูลให้ละเอียดก็ต้องทำงานร่วมกับอปพลิเคชั่นใน Huawei Health ซึ่งมีให้เราดาวน์โหลดมาใช้งานทั้งบน Google Play และ App Store 

ทดลองสวมบนข้อมือ…รับรู้สึกรายละเอียดของออกแบบนาฬิกาที่ใส่ไว้ทุกรายละเอียด 

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่ารุ่นนี้มีให้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นครับ แต่รุ่นที่เรามารีวิวเป็นรุ่น Active Edition ที่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบลุย ๆ ซึ่งในรุ่นนี้สายจะทำมาจากวัสดุ Fluoroelastomer ที่มีความทนทานใส่สบายไม่ระคายผิว และไม่มีความหนึบหนับเมื่อต้องโดนน้ำ ส่วนตัวคือโดนน้ำบ่อยมาก เพราะช่วงนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 หนักหน่วงเหลือเกิน 

การควบคุมใช้งานของ HUAWEI WATCH 3 ผ่านตัวเครื่องซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราสามารถสั่งงานผ่านหน้าปัดของสมาร์ทวอทช์ได้ทั้งบนตัวเรือนและผ่านแอป และแน่นอนครับว่ามีวิดเจ็ดต่างๆ ให้เราเลือกใช้งานมากมายเลย จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ

หน้ารวม Apps จะมีจุดเด่นคือสามารถกดและเลื่อนได้ง่าย ทั้งนี้ มีความรู้สึกคล้ายกับ Apple Watch อย่างมาก

เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและทำงานผ่านแอปพลิเคชัน Huawei Health เป็นวิธีเดียวที่สามารถใช้งานเชื่อมต่อได้สะดวก นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง iOS, Android และ Harmony OS

สำหรับแอปพลิเคชัน Huawei Health หน้าหนัก (Home) ประกอบไปด้วย 3 หน้าที่หลักประกอบไปด้วย โหมดสุขภาพ, การออกกำลังกาย, อุปกรณ์ และข้อมูลของผู้ใช้งาน และจะมีการแบ่งข้อมูลภายในดังนี้

โหมดสุขภาพ

ระบบการรายงานผลสุขภาพ อันนี้จะเชื่อมต่อกับนาฬิกาในรูปแบบของ Bluetooth Low Energy รายงานได้หมดแม้กระทั่งการนอนหลับ 

แม้กระทั่งความเครียด หรือ การนอนหลับก็สามารถดูผลรายงานได้

การออกกำลังกาย

จะมีโหมดให้เลือกอยู่พอประมาณ (ไม่ได้มากเท่านาฬิกา) โดยจะมีการบอกพิกัดสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้งในบางรูปแบบและยังสามารถบอกรายงานผลได้ ทั้งนี้ ข้อมูลจะไม่ได้ Sync รวมกับนาฬิกา

อุปกรณ์ และข้อมูลของผู้ใช้งาน

Huawei Watch 3 มาพร้อมตัวเลือกดีไซน์หน้าปัดที่หลากหลายสามารถเปลี่ยนได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Huawei Health  (หน้าปัดก็จะมีทั้งฟรีและเสียเงิน) ตั้งค่าหน้าปัดได้อย่างอิสระกับฟีเจอร์ DIY Watch Faces ใส่ความเป็นตัวเองลงไปให้สุดๆ ด้วยการตั้งค่าหน้าปัดเป็นภาพถ่ายของตัวเอง หรือภาพที่ชื่นชอบ มีหน้าปัดที่ติดตั้งมาให้เลือกใช้งานมากกว่าหลายร้อยแบบ

HUAWEI Watch3 มีหน้าปัด (Watch Face) ให้เลือกมากกว่า 1,000 แบบ โดยที่ตัวนาฬิกาเองมีติดตั้งมาให้ล่วงหน้าแล้วกว่า 30 แบบ จริง ๆ แค่ที่มีให้มาใช้กันฟรี ๆ ก็ใช้ไม่หมดแล้วครับ ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดผ่าน Huawei Health 

นอกจากนี้คุณยังสามารถเปลี่ยนหน้าปัดแบบเดิมๆ ให้เคลื่อนไหวได้ด้วยวิดีโอของคุณเอง เพียงคุณบันทึกวิดีโอแบบสั้นๆ 5-10 วินาทีด้วยสมาร์ทโฟน แล้วนำมาไว้บนหน้าปัด เท่านี้สมาร์ทวอทช์เรือนพิเศษที่ไม่เหมือนใครก็อยู่บนข้อมือคุณแล้ว 

แต่สำหรับการเชื่อมต่อกับมือถือ Huawei / มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android จะมีการเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาเช่นการสั่งถ่ายภาพจากนาฬิกา(เฉพาะมือถือ Huawei เท่านั้น), ระบบการแจ้งเตือนข้อความ และรวมไปถึง รับสายเรียกเข้าผ่านาฬิกาได้

ฟังก์ชันติดตามข้อมูลสุขภาพ และการออกกำลังกาย ตัวช่วยคู่ใจในการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร กับฟีเจอร์ต่างๆ

ตอบโจทย์ยุคแห่งการดูแลสุขภาพ กับการตรวจจับการหกล้มอัตโนมัติ การวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง และอุณหภูมิผิวบริเวณเซ็นเซอร์ตรวจวัด

ดูแลสุขภาพรอบด้านด้วยการตรวจวัดค่าสำคัญทางสุขภาพตลอดวันอย่างแม่นยำไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด2 (SpO2) ระหว่างออกกำลังกาย

ตรวจค่าออกซิเจนในเลือดสมาร์ทวอทช์เรือนนี้มีระบบ TruSeen 4.5 ที่ช่วยตรวจจับโมเลกุลออกซิเจนภายในเลือดได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำหรือสูง การวัดค่าดังกล่าวก็เป็นไปได้อย่างราบรื่นและใช้พลังงานที่น้อยลง

ติดตามคุณภาพการนอนหลับ รวมถึงติดตามระดับความเครียด พร้อมฟีเจอร์ฝึกกำหนดลมหายใจ ให้ควบคุมอารมณ์และจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ณ จุดที่สวมใส่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แถมจัดเก็บและแสดงผลข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ สัมผัสถึงความร้อนเทคโนโลยีตรวจวัดอุณหภูมิอย่าง Temperature Detector9 ที่จะเข้ามาช่วยตรวจวัดอุณหภูมิผ่านเซ็นเซอร์ด้านหลังสมาร์ทวอทช์

อีกฟีเจอร์โดดเด่นบน HUAWEI WATCH 3 Series คือคอยตรวจสอบการหกล้มได้อัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเมื่อเปิดใช้งานการแจ้งเตือนฉุกเฉิน หากนาฬิกาตรวจพบการหกล้มของผู้ใช้และปราศจากการตอบสนองนาน 1 นาที จะปรากฎข้อความสอบถามว่าต้องการให้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินหรือไม่3

เอาใจคนรักการออกกำลังกายด้วยโหมดการออกกำลังกาย มากกว่า 100 โหมด พร้อมเก็บข้อมูลการ

สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้คือเพื่อนติดตามการออกกำลังกายที่สมบูรณ์แบบ ด้วยรายการการออกกำลังกายกว่า 100 โหมด โดยแบ่งออกเป็น 19 โหมดระดับโปรสำหรับกีฬาในร่มและกลางแจ้ง ออกกำลังแบบกำหนดเอง 85 โหมด และอีก 6 โหมดสำหรับประเภทการออกกำลังที่พบบ่อยที่สุด

ซึ่งข้อมูลทั้งหมดแบบละเอียดนี้จะถูกเก็บไว้ใน HUAWEI Health บนสมาร์ทโฟนของคุณ พร้อมกับระบบติดตามเส้นทางกลางแจ้งที่แม่นยำด้วยเซ็นเซอร์แบบ GNSS แบบมัลติโหมด

ฟังก์ชันการโทร และการใช้งานทั่วไป ที่ยกระดับชีวิตสุดอัจฉริยะ รองรับการเชื่อมต่อด้วย eSIM 4G โทรออกได้จากบนข้อมือ

ส่วนต่อมาเป็นเป็นฟังก์ชันพื้นฐานไปแล้วสำหรับสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ๆ ที่มันเหมือนบังคับว่าต้องมาพร้อมกับความสามมารถในการแจ้งเตือนต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่น, ข้อความ, สายโทรเข้า เมื่อมีกิจกรรมหรืออะไรก็แล้วแต่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนโดยที่ไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา 

สามารถใช้งาน eSIM เพื่อให้นาฬิกาสามารถรับสาย โทรออก รวมถึงดาวน์โหลดและจัดการแอปพลิเคชันยอดฮิตได้โดยตรงบนสมาร์ทวอทช์ เพราะมี HUAWEI AppGallery ติดตั้งมาให้ในตัว เช่น HUAWEI Music (พร้อมเพลงจาก GMM กว่า 20,000 เพลง), Coolism (แอปฟังวิทยุออนไลน์จากคลื่นคลูลิซึ่ม FM93), Thai Fast Dictionary (แอปฝึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ), Thai Airways (แอปตารางการบินของสายการบินไทย), Releep (แอปช่วยจัดการด้านสุขภาพ) และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่างที่บอกไปแล้วว่า Huawei Watch  รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 ใหม่ล่าสุดและเท่าที่ได้ลองเล่นเราว่ามันทำได้ดีจริงๆ มากนะ ลื่นไหลดีแถม UI ก็วางออกมาดี สวยขึ้น สบายตาขึ้นมาก

บันทึกเสียงบนนาฬิกาได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วผ่านแอปพลิเคชัน Note ช่วยให้การทำงานสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น 

เต็มอิ่มด้วย HUAWEI  AppGallery 

ส่วนใครที่อยากจะเพิ่มแอปพลิเคชั่นเพิ่มก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ HUAWEI  AppGallery  แต่หลัก ๆ ที่เขามีมาให้ในเครื่องจากโรงงานผมก็ว่าครบแล้วแหละ

เล่าให้ฟังหลังจากได้ใส่ Huawei Watch 3 ใช้งานในชีวิตจริงๆ  

เรียกว่าคงเป็นอีกรีวิวที่ทำอะไรได้ไม่มากจริง ๆ สำหรับในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาดในตอนนี้ และมาถูกจังหวะจริง ๆ ครับผมเพราะตอนนี้ประเทศไทยคือเป็นช่วงที่เรียกว่าสูงที่สุดตั้งแต่มีมา เอาเป็นว่าผมเล่าแบบรวบรัดกันเลยละกันครับ เอาเท่าที่ได้เพราะเอาจริงๆ ในช่วงการระบาดของโควิด 19 รอบ 3 นี้ก็ทำให้ผมไม่สามารถใส่เจ้าHUAWEI Watch 3  ที่ได้มาทดลองเล่นออกไปทำกิจกรรมอะไรและนำมาเล่นให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันมากนัก

หลักๆ คงทำได้แค่ทดสอบฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการวัดออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) ที่สามารถทดสอบได้ง่ายๆ ยามอยู่บ้าน การเต้นของหัวใจ รวมไปถึงการวิเคราะห์ยามหลับครับ (ส่วนฟีเจอร์การออกกำลังกายอื่นๆ ขอติดไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ)

เรื่องแรกคงเป็นเรื่องของดีไซน์ที่คิดเองนะว่าหัวเว่ยคิดมาแทนเราแล้วแน่ๆ ด้วยการออกแบบที่ทำให้มันเป็นมากกว่าสมาร์ทวอทช์ยามสวมใส่  HUAWEI Watch 3 มาพร้อมการออกแบบมาเหมือนกับนาฬิกาจริงมาก ๆ ช่วยให้คุณสวมใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าคุณจะใส่ไปออกกำลังกาย ใส่ไปทำงาน หรือใส่ไปเที่ยว มันก็เหมาะลงตัวเรียกว่าจะแต่งตัวแบบไหนก็ได้หมด… แถมให้ฟิลลิ่งการสวมใส่เหมือนกับเราใส่นาฬิกาจริง ๆ 

สำหรับฟีเจอร์พื้นฐานที่ได้ทดลองใช้งานจริงๆ ผมว่า HUAWEI Watch 3 วิเคราะห์ออกมาได้ดีเลยครับ ส่วนตัวชอบการวัดออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) มาก ๆ อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจได้ระดับหนึ่งแหละหากมันบอกอย่างน้อยก็ประเมินเรื่องของอาการป่วยโควิด-19 เบื้องต้นได้

ด้วยพลังข้อมูลอันชาญฉลาด ทำให้สมาร์ทวอทช์เรือนนี้เสมือนเป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพและการออกกำลังได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมบันทึกรายละเอียดทั้งหมดไว้ในแอปพลิเคชั่น HUAWEI Health แบบครบถ้วน

ต่อมาเป็นอีกเรื่องที่อยากชม นั้นคือการใช้สายผ่าน HUAWEI Watch 3 ทั้งไมโครโฟนและลำโพงสามารถทำงานออกมาได้ดีเลย เสียงดัง ฟังชัด และอีกฝั่งก็สามารถฟังเสียงเราได้ชัดเจนและไม่ดีเลย์ เพียงแต่สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในอนาคตก็คือ เรื่องของการใช้พลังงาน ถ้าลดลงกว่านี้ก็คิดว่าจะเหมาะสมและน่าใช้กว่า

ผมว่าสำหรับใครหลายคนที่มีคำถามว่ามันคือสมาร์ทวอทช์แล้วจะแม่นยำเหมือนนาฬิกาเพื่อสุขภาพของค่ายอื่นๆ ได้เหรอ ผมว่าในรุ่นนี้มั่นใจได้นะอันนี้ผมลองเล่นแล้วเลยพูดได้ ส่วนใครที่ยังไม่มั่นใจก็สามารถเดินเข้าไปสัมผัสและทดลองเล่นกันตาม HUAWEI Experience Store ก่อนได้ครับ

HUAWEI WATCH 3 Series มีให้เลือก 2 รุ่นคือ HUAWEI WATCH 3 Active Edition ดีไซน์สปอร์ต ราคา 12,990 บาท กับ Classic Edition หน้าปัดสเตนเลสสตีล สายหนัง ราคา 14,490 บาท และอีกรุ่นคือ HUAWEI WATCH 3 Pro Classic Edition ดีไซน์กรอบไทเทเนียมและสายหนัง ราคา 21,990 บาท พร้อมฟรี HUAWEI Steel Strap* และบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 10,377 บาท เมื่อซื้อระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ถึง 22 กรกฎาคม 2564

โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการอย่าง HUAWEI Online Store, Shopee, Lazada และ JD Central

(*HUAWEI WATCH 3 Active Edition รับฟรีสายนาฬิกาสเตนเลส สตีล สีดำ, HUAWEI WATCH 3 Classic Edition รับฟรีสายนาฬิกาสเตนเลส สตีล, HUAWEI WATCH 3 Pro Classic รับฟรีสายนาฬิกาสเตนเลส สตีล สีไทเทเนียม เมื่อซื้อช่วงพรีออเดอร์เท่านั้น)