กลับมาพบกับรีวิว จากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้ง สำหรับรอบนี้ใครที่รอคอยการมาของคอมพิวเตอร์เล่นเกราคาไม่แพง และได้ศักยภาพที่ดีไม่เบาอย่าง Acer Nitro 5 วันนี้เราได้รับรุ่นนี้มาทดลองให้คุณได้รับชมกัน พร้อมแล้วมาดูกันเลย
รูปลักษณ์ดีไซน์
เริ่มต้นกับการออกแบบด้านหน้าที่เน้นสีดำและมีลวดลายที่ดุดันไม่เรียบและเน้นความเป็นเหลี่ยมสันมาก พร้อมกับมีโลโก้ของ Acer สีดำ และด้านล่างมีการแปะชื่อรุ่นว่า Nitro
รอบตัวเครื่องดุดันครบเครื่องมาพร้อมกับช่องเสียบครบครัน ได้แก่ ฝั่งซ้ายจะมี USB-A ทั้งหมด 2 ช่อง, LAN RJ-45 และช่องเสียบ 3.5 mm. Audio Jack เป็นแบบ Combo Port
ส่วนฝั่งขวาจะมาพร้อมกับ HDMI, USB-A และ USB-C และทั้งคู่มีช่องระบายอากาศมาให้เช่นเดียวกัน
ส่วนหน้าจะมีการแบ่งสัดส่วนด้วยเส้นสายสีแดง ที่ช่องระบายความร้อน ตรงกลางเป็นช่องเสียบ DC-IN สำหรับชาร์จไฟตัวเครื่องเท่านั้น
ส่วนหลังที่หันมามาหคุณจะเป็นช่องที่ผลักหน้าจอ โดย Acer Nitro 5 จะกางบานพับได้มากที่สุด 170 องศา เท่านั้น
เมื่อเปิดฝาเครื่องจะพบกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว เป็นแบบป้องกันลายนิ้วมือ โดยขอบหน้าจอระหว่างที่จอถึงขอบเหลือเพียง 7.2 มิลลิเมตรเท่านั้น และหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ความละเอียด Full HD, Refresh Rate 144Hz เท่านั้น ถัดลงมาคือสถานะไฟเปิดเครื่องและ การชาร์จไฟ ส่วนบนสุดจะมีกล้อง Webcam และไมโครโฟน
ส่วน Keyboard จะมีขนาดใหญ่พร้อมกับ Numpad และยังมาพร้อมกับไฟเรืองแสงแบบ RGB การสัมผัส Keyboard ให้ความหนักแน่นแม่นยำและกดง่ายไม่ต้องออกแรงมาก แต่รู้สึกว่ากดอยู่ และมี Touch Pad ขนาดใหญ่
ส่วนใต้เครื่องจะมีช่องระบายอากาศ และมีลำโพงสำหรับปล่อยเสียงออกมา แม้ว่าตำแหน่งค่อนข้างลึก แต่ว่าการปล่อยเสียงออกมา ยังมีพลังไม่รู้สึกว่าเสียงเบาหรือเสียความละเอียดแม้แต่น้อย
ภาพรวมการออกแบบ
ในการออกแบบของ Acer Nitro 5 อาจจะไม่ได้ฉีกจากรุ่นเก่ามากแต่ก็ยังคงเน้นเรื่องการตอบโจทย์คน ที่อยากได้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพ ที่ไม่ได้ดูเป็น เกมเมอร์จ๋า สักทีเดียว แต่ว่าสาย Gaming อาจจะขัดใจว่า ไฟ LED ไม่ได้ให้รอบตัว ซึ่งถ้าอยากได้เยอะกว่านี้ Predator ก็พร้อมจะรับใช้ท่าน แต่ราคาสูงกว่าตัวนี้พอสมควร
เปิดเครื่องทดลองใช้งานกัน
รายละเอียดสเปกของ Acer Nitro 5 (AN-515-57-74ZT)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว LED Backlit ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Refresh Rate 144Hz
- ขนาด : 36.34 x 25.5 x 2.39 เซนติเมตร
- หนัก : 2.2 กิโลกรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล : Intel Core i7 11800H
- ชิปประมวลผลกราฟิก : NVIDIA® GeForce® RTX 3050Ti , with 4GB GDDR6
- RAM : แบบ DDR4-2933MHz SDRAM ในเครื่องใส่มาให้ 16GB อัปเกรดได้ 32GB
- ความจุ(ROM) : SSD 512GB อัปเกรตได้ด้วยการเพิ่มแถว
- กล้องหน้า : HD Camera
- ตัวเชื่อมต่อ (Port)
- 1 x COMBO audio jack
- 3 x Type-A USB 3.2 (Gen 1)
- 1 x Type-C USB 3.2 (Gen 2) Thunderbolt 4 รองับ Display Port
- 1 x RJ45 LAN Killer E2600 Gigabit Ethernet
- 1 x HDMI, HDMI support 2.0b
- 1 x AC adapter plug
- เชื่อมต่อ WiFi 11 AX, Bluetooth V5.2
- ลำโพง : 2x พร้อมระบบเสียง DTS:X Ultra
- ไมโครโฟน : 2 ตัว
- ระบบปฏิบัติการ : Windows 10 64 Bit
- แบตเตอรี่ขนาด 56 Wh ที่ชาร์จแบบ 180W Power Adapter แบบ DC-IN
- สีเครื่อง ดำ
ผลการทดลองประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม
จากคะแนนประสิทธิภาพที่เห็นถือว่าเป็นอีกเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีมาก ซึ่งบางคนอาจจะซื้อในรุ่น RAM 8GB แนะนำว่า ลองเพิ่มความจำในส่วนของ RAM สักหน่อยก็จะทำได้เท่าเทียวกับรุ่นนี้
นอกจากแรงแล้ว ในเรื่องการระบายอากาศ Acer มีการติดตั้งพัดลมแยกระหว่าง GPU และ CPU พร้อมกับเทคโนโลยี Coolboost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ ติดตามและจัดการระบบของคุณแบบเรียลไทม์
ทั้งหมดสามารถควบคุมผ่าน Nitro Sense ที่สามารถปรับแต่งการพัดลมได้ละเอียดโดยแบ่งเป็น 4 รูปแบบตามความต้องการ แต่แนะนำว่าตั้ง Auto เพราะเมื่อเครื่องมีการโหลดใช้งานเยอะ มันจะปรับได้เอง เช่นถ้าเล่นเกมก็จะมีกราฟที่ค่อนข้างสูงและไม่เกิดความร้อนสูงแบบเกินความจำเป็น
ทำให้การทดลองเล่นเกม Forza Horizon 4 ในระดับการปรับสุดทำให้ภาพที่ออกมาลื่นไหลมากพอสมควร เลย หมดห่วงในเรื่องการทำงานได้ แต่ถ้าจะมา Render Video ความละเอียด 4K ควรจะเพิ่ม RAM อีกหน่อย
ส่วนการเชื่อมต่อนั้นรองรับ Bluetooth 5.1, Wi-Fi 6 และ LAN ในระดับ Gigabit ทั้งหมด Acer มีการปรับจูนทำให้ตอบสนองดีขึ้น ที่มีชื่อว่า Killer Doubleshot Pro
การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง
การแสดงผลในหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ที่มีขอบบางเฉียบ แต่ให้สีสันของภาพได้ลงตัวมากขึ้น ในการปรับแต่งสีสันสามารถทำผ่านการ์จดอ NVidia GeForce RTX 30 Series ได้และยังมี Refresh Rate ที่ 144Hz และรุ่นนี้มีความละเอียด FHD แต่ถ้าได้สเปกของหน้าจอ QHD จะมี ค่า Refresh Rate 165Hz
ส่วนระบบเสียงของ Acer Nitro 5 จะมาพร้อมกับ DTS X Ultra จะปรับแต่งในเรื่องการประสิทธิภาพ ได้ละเอียดและ มี Game Mode แบ่งออกเป็น Shooting Mode ให้เสียงได้ยินรอบทิศ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Acer Nitro 5 เลือกใช้ Windows 10 ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเยอะมีแค่โปรแกรมเสริมเข้ามาเท่านั้น นอกจากการแสดงผลภาพที่ได้บอกกก่อนหน้านี้แล้ว จะมีระบบปรับแต่งเครื่องผ่าน Nitro Sense ปรับได้หลายจุดเช่น
- การปรับแต่งแสงของ Keyboard ให้มีการแสดงผลหลากหลายรูปแบบ และแบ่งเป็นโซฯได้ด้วย
- การปรับแต่งการทำงานของ CPU และพัดลมระบายอากาศ
- การเข้าถึงฟีเจอร์การปรับแต่งภาพ และระบบเสียง
ส่วนระบบความปลอดภัยให้เพียงแค่ ระบบ PIN เท่านั้น
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
เห็นสเปกมาเต็มๆ แบบนี้ส่วนการให้พลังงานผ่านแบตเตอรี่มีอยู่ที่ 56Whs เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับสเปกถือว่าน้อยไปหน่อย อย่างว่าเครื่อง นี่คือ Gaming Notebook แบตเตอรี่ไม่อึดมาก ใช้งานหนักๆ ได้เพียง 4 ชั่วโมงในโหมดเรียกประสิทธิภาพสูง แต่ถ้า Power Saving Mode ยังคงเพิ่มไปเป็น 6 ชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนระบบชาร์จไฟอันนี้ต้องบอกก่อนว่ามันทำได้แค่การเสียบปลั๊กที่ด้านหลังเครื่องแบบ DC-IN กำลังของ Adapter อยู่ที่ 200W เท่านั้น แต่ก็จ่ายไฟให้เต็มในเวลา 1:50 ชั่วโมง
สรุปหลังจากทดลองใช้งาน Acer Nitro 5 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
Acer Nitro 5 เป็นอีกคอมพิวเตอร์ตระกูลหนึ่งของ Acer ที่ติดอันดับขายดีเพราะสเปกที่ดี หน้าตาสวยงาม อัปเกรดและราคาสมเหตุสมผลอย่างมาก โดยครั้งนี้ที่ได้ทดลองนั้นแม้ว่าปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์รุ่นนี้หายกาแล้วก็ตาม ส่วนราคาของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 37,990 – 79,990 บาท ขึ้นอยู่กับสเปกที่เลือก แต่ที่ทีมได้รีวิวคือ ราคา 41,990 บาทเท่านั้น
หากใครต้องการคอทมพิวเตอร์ที่ต้องการเน้นประสิทธิภาพ รุ่นนี้ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ แถมยังได้รับประกัน 3 ปี พร้อมกับมีการรับประกันซ่อมเสร็จภายใน 3 ชั่วโมงด้วยครับ
จุดเด่น
- ขนาดเครื่องถือว่าสมดุลไม่เล็กและไม่ใหญ่
- สเปกเครื่องแรงจัดทำงานได้แน่นอน
- Nitro Sense ปรับแต่งได้เยอะกว่า พัดลม
- ระบบเสียงถือว่าดี
- อัปเกรด Windows 11 ได้แน่นอน
- สเปกเครื่องเผื่อการอัปเดตมากพอสมควร
ข้อสังเกต
- สีสันของตัวเครื่องไม่ค่อยมี เน้นสีดำเกินไปหน่อย
- ลูกเล่นเทียบกับคู่แข่งปรับแต่งได้น้อย