ราชกิจจาฯ แพร่ประกาศ ระเบียบขอรับเงินสมทบผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ที่นําส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน เผย รายละเอียดรีบดูเลย
วันที่ 30 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบสํานักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืน พ.ศ. 2565 ระบุว่า โดยที่พระราชกฤษฎีกากําหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ลดอัตราเงินสมทบลง
ส่งผลให้เงินสมทบที่ผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ซึ่งได้จ่ายล่วงหน้าไว้ เป็นเงินสมทบที่นําส่งเกินจํานวนบางส่วนที่ต้องชําระคืน เพื่อให้การปฏิบัติงานในการคืนเงินสมทบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนยิ่งขึ้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2555 และข้อ 17 แห่งระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บ รักษาเงินกองทุน พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระเงินคืน พ.ศ.2565”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ 3 ในระเบียบนี้
“ผู้ประกันตน” หมายความว่า ผู้ซึ่งจ่ายเงินสมทบอันก่อให้เกิดสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกากําหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
“สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานประกันสังคมจังหวัด สํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา สํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสถานที่อื่นตามที่เลขาธิการประกาศกําหนด
ข้อ 4 ให้ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ ยื่นคําร้องขอรับเงินคืนตามแบบคําขอที่แนบท้ายระเบียบนี้ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สํานักงาน หรือด้วยวิธีการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือทางโทรสาร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่เลขาธิการกําหนด
ในกรณียื่นคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืนตามวรรคหนึ่ง ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับจะถือวันประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสําคัญ หรือทางโทรสาร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่เลขาธิการกําหนด ให้ผู้ยื่นคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้ เกินจํานวนที่ต้องชําระคืน เก็บหลักฐานการส่งเพื่อการตรวจสอบ
ข้อ 5 ให้ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ ยื่นคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้อง ชําระคืน ต่อสํานักงานภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ทราบว่ามีสิทธิรับเงินคืน หรือภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นําส่งเงินสมทบเข้ากองทุน
ข้อ 6 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากประกันสังคมจังหวัด หัวหน้าสํานักงาน ประกันสังคมจังหวัดสาขา ผู้อํานวยการสํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ แล้วแต่กรณี เป็นผู้มีอํานาจพิจารณาคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืนตามข้อ 4 และให้ ข้าราชการซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้เป็นผู้มีอํานาจพิจารณาอนุมัติสั่งจ่ายเงิน
(1) ประกันสังคมจังหวัด หัวหน้าสํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา หรือข้าราชการ พลเรือนสามัญตําแหน่งประเภทวิชาการตั้งแต่ระดับชํานาญการขึ้นไป ซึ่งปฏิบัติราชการ ณ สํานักงาน ประกันสังคมจังหวัด สํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา ที่ได้รับมอบหมายจากประกันสังคมจังหวัด
(2) ผู้อํานวยการสํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภทวิชาการตั้งแต่ระดับชํานาญการขึ้นไป ซึ่งปฏิบัติราชการ ณ สํานักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อํานวยการสํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่
วิธีการคืนเงินที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืน ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ข้อ 7 ให้เลขาธิการรักษาการตามระเบียบนี้
ทั้งนี้ ประกาศ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการประกันสังคม