วันที่ 30 เม.ย.เอเอฟพีรายงานว่า ทางการโปแลนด์แถลงผลการเข้ายึดตึกโรงเรียนมัธยมปลายสำหรับบุตรของนักการทูตรัสเซียซึ่งสร้างในทศวรรษ 1970 ใกล้สถานทูตรัสเซียในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียถือว่า เป็นอีกหนึ่งการกระทำที่เป็นปรปักษ์จากทางการโปแลนด์และผิดกฎหมาย รัสเซียให้คำมั่นเตรียมตอบโต้อย่างรุนแรงและจะมีผลตามมาสำหรับทางการโปแลนด์และผลประโยชน์ของโปแลนด์ในรัสเซีย

เจ้าหน้าที่เมืองวอร์ซอกำลังเข้าไปในตึกเรียน สำหรับลูกทูตของรัสเซีย ในกรุงวอวอร์ซอ เมื่อ 29 เม.ย. (เอเอฟพี)
นายลูคาซ จาสิมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ระบุว่า ตึกดังกล่าวเป็นของศาลากลางเมืองวอร์ซอและการเข้ายึดเป็นไปตามคำสั่งศาล ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ออกแถลงการณ์ในเดือนมี.ค.2565 ไม่นานหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อ 14 ก.พ. 2565 โดยระบุว่า ศาลโปแลนด์พิพากษาให้รัสเซียคืนตึกให้โปแลนด์ นับเป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศที่ดำเนินมา 1 ปี

ยานยนต์ติดป้ายทะเบีนทูตเข้าในอาคารเรียนมัธยมปลายของรัสเซียในกรุงวอร์ซอ โปแลนด์ เมื่อ 29 เม.ย.(เอเอฟพี)
นายราฟัล ซาสโกสกี นากยกเทศมนตรีกรุงวอว์ซอระบุว่า ตึกโรงเรียนนี้ไม่มีสถานะทางการทูตและไม่ได้รับการคุ้มครองจากเอกสิทธิ์ทางการทูตใดๆ และว่า ในปี 2559 รัสเซียถูกสั่งให้จ่ายเงินอีก 7.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 250 ล้านบาท และดอกเบี้ยสำหรับการยึดครองที่ผิดกฎหมาย
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซียประณามการแทรกแซงของโปแลนด์ในฐานะที่เป็นการรุกรานอย่างผิดกฎหมาย การละเมิดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตปีค.ศ.1961 อย่างชัดแจ้ง และว่าครูและนักเรียนอาศัยอยู่ชั้นแรกของตึก โรงเรียนจะยังคงปฏิบัติการในอีกส่วนของพื้นที่ของสถานทูตต่อไป
การประกาศเข้ายึดตึกดังกล่าว เกิดขึ้นห่างกัน 1 ปี หลังจากสภาเมืองวอร์ซอยึดพื้นที่ทางการทูตของรัสเซีย ซึ่งชาววอร์ซอตั้งฉายาว่า “รังสายลับ” และคืนให้แก่ยูเครน
……………….