สลดใจ! หญิงวัย 59 ปี อดีตผจก.บริษัท ป่วยติดเตียง ลูกตกงาน จ้างเพื่อนมาดูแล ขอยืมเงินไม่มี ไปกู้มาให้ยืม แต่ไม่ใช้ เป็นหนี้หมดตัว ถูกตัดไฟในอีก 2-3 วัน
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านเอื้ออาทรนนทบุรี (วัดกู้ 2) ถนนสุขาประชาสรรค์ 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อาคาร 85 ห้องเลขที่ 185 หลังจากได้รับข้อมูลมาว่ามี นางกนกกาญจน์ อายุ 59 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงขอความช่วยเหลือยังไม่ได้กินข้าว และไม่มีผู้ดูแล จึงเดินทางไปกับอาสาสมัคร เพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมซื้อข้าวไปให้
ภายในห้องพบกับนางกนกกาญจน์ นั่งอยู่บนเตียง โดยมีการใส่สายออกซิเจน และเปิดเครื่องผลิตออกซิเจนตลอดเวลา โดยท่อนล่างสวมใส่แพมเพิร์ส ภายในห้องมีข้าวของเช่นของกิน และกับข้าวถุงอาหารเก่า วางอยู่โดยรอบเตียงนอน ทางอาสาสมัครจึงนำข้าวให้นางกนกกาญจน์กิน หลังจากทนหิวมานาน
นางกนกกาญจน์ กล่าวว่า เมื่อหลาย 10 ปีก่อน ตนเคยทำงานเป็นผู้จัดการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาหลังจากสามีเสียชีวิตจึงออกจากงานมาค้าขายของชำ ในเอื้ออาทรแห่งนี้โดยซื้อห้องที่นี้ไว้ 1 ห้อง แต่ปัจจุบันถูกยึดไปแล้วในช่วงโควิดที่ผ่านมา
ซึ่งสาเหตุที่ต้องเลิกค้าขาย เพราะเกิดล้มป่วยลง เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ และกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้เดินไม่ได้ ในช่วงระยะนั้นยังพอมีเงินติดตัวอยู่บ้าง ก็ได้เพื่อนร่วมอาชีพค้าขายคือ นางเอ (นามสมมุติ) มาดูแลกินนอนอยู่ที่ห้อง โดยให้ค่าจ้างวันละ 300 บาท
นางกนกกาญจน์ กล่าวว่า จนกระทั่งอยู่กันจนสนิท นางเอเอ่ยปากขอหยิบยืมเงินจำนวน 30,000 บาท ตนบอกไปว่าไม่มี เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ยังดีๆ ถูกเพื่อนบ้าน 2 คนหยิบยืมเงินกว่า 50,000 บาทไปยังไม่ได้คืน ถึงขั้นฟ้องร้องกัน
แต่ด้วยความไว้ใจ และนางเอคอยดูแลตน จึงไปขอกู้เงินจากคนที่รู้จักมาให้ ซึ่งค่าดอกเบี้ยที่นางเอจะต้องจ่าย ตนเป็นคนรับปากจ่ายให้ทดแทนเป็นค่าจ้างที่ดูแลในแต่ละวัน หลังจากนั้นไม่นานนางเอ พาเพื่อนแม่ค้ามาหาและเอ่ยปากให้ตนไปขอกู้เงินให้อีก จนเป็นเงินที่กู้มารวม 80,000 บาท และไม่ส่งดอกเบี้ยทำให้ตนต้องรับภาระใช้หนี้แทนมาตลอดจนเงินหมด
นางกนกกาญจน์ กล่าวอีกว่า จึงนำพระเก่าแก่ที่เก็บไว้มานานไปขายและได้เงินมา 200,000 บาท แบ่งนำเงินไปใช้หนี้ทั้งต้นทั้งดอก แทนให้กับนางเอ และกลุ่มแม่ค้าที่มาขอให้ตนไปขอกู้เงินให้ เงินที่เหลือก็ต้องใช้จ่ายไปกับการรักษาตัวจนหมดแล้ว จนล่าสุด 2-3 เดือนที่ผ่านมานางเอ ก็ไม่มาดูแลตนอีกเลย จะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.และบางคนที่จะแวะเวียนเข้ามาดูบ้าง
“ตอนนี้ลำบากมาก ต้องการให้นางเอและกลุ่มเพื่อนนำเงินมาคืน เพื่อจะนำเงินมารักษาตัวเอง ซึ่งปัจจุบันต้องใช้แพมเพิร์สแผ่นรอง และที่สำคัญห้องจะถูกตัดไฟฟ้าอีก 2-3 วันนี้แล้ว เนื่องจากค้างค่าไฟมาหลายเดือนกว่า 5,000 บาท ถ้าไฟโดนตัด ไม่รู้จะอยู่ยังไง เพราะต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจนตลอดเวลา ไหนจะต้องจ่ายค่าเช่าห้องอีก” นางกนกกาญจน์ กล่าว
เมื่อสอบถามถึงลูก นางกนกกาญจน์ กล่าวว่า มีลูกชายทำงานเป็นพนักงานของสายการบินแห่งหนึ่ง แต่ต้องถูกเลิกจ้างในช่วงโควิดที่ผ่านมา ซึ่งก่อนนี้ลูกชายจะส่งเงินมาให้เดือนละ 3,000 บาท แต่หลังจากลูกชายตกงานออกมาเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร ซึ่งปัจจุบันก็หายไป ไม่ส่งเงินมาให้ และไม่ติดต่อกลับมาหาอีกเลย
ที่มา มติชนออนไลน์